เกาหลีใต้จำกัดจำนวนเด็กเข้าเรียน กังวลโควิด-19 แพร่ระบาดในสถานศึกษา

by
https://mpics.mgronline.com/pics/Images/563000005788101.JPEG

เอเอฟพี - เกาหลีใต้ในวันศุกร์ (29 พ.ค.) กำหนดมาตรการจำกัดจำนวนเด็กนักเรียนที่กลับสู่ชั้นเรียนเหลือเพียง 1 ใน 3 ในเขตเมืองหลวงและปริมณฑล ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังหาทางจัดการกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งกำลังคุกคามความสำเร็จในการควบคุมโรคระบาดใหญ่ของพวกเขา

เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า มีเพียง 1 ใน 3 ของนักเรียนชั้นอนุบาล, ประถมและมัธยมในพื้นที่มหานครโซล ที่จะได้รับอนุญาตให้กลับเข้าสู่ชั้นเรียนในแต่ละวัน ส่วนที่เหลือนั้นยังคงต้องเรียนทางไกลต่อไป

โดยรวมแล้วมีโรงเรียน 502 แห่งในพื้นที่เมืองหลวงที่จะต้องปิดการเรียนการสอนต่อไป เจ้าหน้าที่ระบุ เนื่องจากโรงเรียนเหล่านี้อยู่ใกล้กับสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเคสผู้ติดเชื้อในกรุงโซล

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากสถาบันการศึกษาต่างๆเริ่มกลับมาเปิดการเรียนการสอนแบบค่อยเป็นค่อยไปอีกครั้งทั่วประเทศ

เกาหลีใต้เคยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดนอกจีนแผ่นดินใหญ่ แต่เวลานี้ดูเหมือนเกาหลีใต้จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว ซึ่งเป็นผลจากโครงการ “ติดตาม, ตรวจโรคและดูแลรักษา” อย่างเข้มข้น ในขณะที่ประเทศแห่งนี้ไม่จำเป็นต้องบังคับล็อกดาวน์แต่อย่างใด

ทั้งนี้ เกาหลีใต้เริ่มผ่อนปรนมาตรการเว้ยระยะห่างทางสังคมและประเทศค่อยๆกลับสู่ภาวะปกติมาหลายสัปดาห์ จนกระทั่งสัปดาห์นี้พวกเขาต้องกลับมาใช้มาตรการบางอย่างอีกครั้งในเมืองหลวงและปริมณฑล หลังพบกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อใหม่

เมื่อวันพฤหัสบดี (28 พ.ค.) เกาหลีใต้รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน สูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน แต่ในวันศุกร์ (29 พ.ค.) ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงเหลือ 58 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 11,402 คน

ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เชื่อมโยงกับการระบาดในคลังสินค้าของบริษัทอีคอมเมิร์ซ “คูปัง” ในเมืองบูชอน ทางตะวันตกของกรุงโซล ซึ่งจนถึงวันศุกร์ (29 พ.ค.) ยอดผู้ติดเชื้อรวม ณ คลังสินค้าแห่งนี้อยู่ที่ 96 คน

“เราแนะนำให้พนักงานของคูปังและสมาชิกในครอบครัว อย่าเดินทางไปโรงเรียน” ผู้ช่วยรัฐมนตรีศึกษาธิการระบุ ทั้งนี้การพบกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อใหม่ส่งผลให้ พิพิธภัณฑ์, สวนสาธารณะ และห้องจัดแสดงศิลปะต้องกลับมาปิดทำการอีกครั้งเป็นเวลา 2 สัปดาห์ตั้งแต่วันศุกร์ (29 พ.ค.) ขณะที่บริษัทต่างๆ ถูกร้องขอให้ยืดหยุ่นเวลาเข้างาน