แมทธิว ดีน เปิดใจ ห่วงคนหายจากโควิด-19 โดนสังคมรังเกียจ
by matichonแมทธิว ดีน เปิดใจ ห่วงคนหายจากโควิด-19 โดนสังคมรังเกียจ
รับเชิญมาเป็นแขกในรายการโหนกระแสทางช่อง 3 HD วันนี้ แล้ว แมทธิว ดีน เปิดใจให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีไวรัสโควิด-19 ว่า ตอนที่รู้ว่าติดเชื้อช็อคมาก
“ช็อคที่สุดในชีวิต เพราะก่อนหน้านั้นไม่คิดว่าตัวเองติดหรอก ตอนนั้นคนไทยเป็นไม่ถึง 100 คน ทั่วประเทศมี 70 ล้านคน ผมจะเป็น 1 ใน 70 ล้านเลยเหรอ”
แต่เมื่อผลตรวจออกมาว่าเป็น ก็ตัดสินใจแจ้งให้ทุกคนที่ตนได้พบก่อนหน้านั้นรู้
“ต้องให้เขารับรู้ว่าเราติด เผื่อเขาอาจจะโดนไปด้วย เผื่อเขาต้องไปป้องกัน เผื่อเขาเจอลูก เจอผู้ใหญ่”
“หลังจากนั้นคนอื่นๆ จะบอกยังไงก็ลงไอจีให้คนเห็นมากที่สุด เพราะมันยังใหม่มาก เราไม่รู้เราจะเป็นหนักเป็นเบา ใครจะติดจากเรามากน้อยแค่ไหน”
เล่าด้วยว่า ณ ตอนนั้นรู้สึกเครียดและกังวล เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป ไม่รู้ว่าจะได้มาเจอลูกวันไหน อย่างไรก็ดีตอนนี้หมอบอกว่าตนหาย 100 %
“แต่ผมรู้สึกเองว่าอาจจะยังไม่ร้อย ยังไม่กล้าออกกำลังกายหนักเท่าเมื่อก่อน ยังเผื่อไว้นิดนึง เผื่อจะทรุด แต่คุณหมอบอกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์”
“คุณหมอบอกเรามีภูมิแล้ว ถ้ามันมาหาเราใหม่ ร่างกายจะมีภูมิพร้อมสู้ จะไม่ทรุด แต่เฉพาะช่วงนี้นะ พอสักพักมันเปลี่ยนกลายพันธุ์ ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมมีโอกาสเป็นใหม่ แต่ช่วงนี้คงยัง”
“ทุกคนมีโอกาสเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นก็ต้องระวังตัว ผมไปไหนก็ต้องใส่หน้ากาก เป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ”
“เข้าใจว่าตัวเลขในบ้านเราดี เนื่องจากมีการระมัดระวัง คุณหมอเก่ง คนไทยมีวินัยดีมากๆ ใส่หน้ากาก ล้างมือ แต่อย่าชะล่าใจ อย่าปล่อยให้เป็นสิ่งที่เราลืมไป เพราะมันมีโอกาสเป็น พอเป็นแล้วมันไม่สนุก มันเป็นนาน มันเหนื่อย เสี่ยงกับชีวิต ยิ่งคนอายุมากมันน่ากลัว ช่วงที่เครียดกังวลที่สุดไม่ได้กลัวเรื่องสภาพร่างกายตัวเองเท่าไหร่ แต่กลัวคนที่บ้าน คนรอบข้าง”
แมทธิวยังบอกด้วยว่าที่ผ่านมาเขาได้ไปบริจาคพลาสม่าที่สภากาชาดไทย
” ผมกับสภากาชาดไทยคุยกันอยู่เรื่อยๆ เขาคุยตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลว่าถ้าเกิดออกมาแล้วหายดี สัก 2 อาทิตย์ อยากให้มาบริจาคพลาสม่าเพื่อนำไปช่วยคนอื่นที่ป่วยจากโควิด-19 ด้วย ซึ่งก็มีความยินดี และไม่ได้เกี่ยวกับโควิด-19 อย่างเดียวนะ สามารถบริจาคพลาสม่าเพื่อช่วยในหลายๆ โรคด้วย ฉะนั้นการเป็นโควิด-19 แล้วเป็นโรคใหม่ พลาสม่ามีคุณค่ามาก ซึ่งมันมหัศจรรย์มาก”
“เขาดูดเลือดเราออกไป เอาไปปั่นแล้วคืนเลือดกลับมาพร้อมน้ำเกลือ ในพลาสม่าจะมีภูมิของเรา ซึ่งเหมือนทหารรบ เวลามีอะไรแย่ๆ ก็ออกมาต่อสู้กับมัน เหมือนเอาไปเสริมทัพคนเป็นโควิด-19 ต้องเป็นกรุ๊ปเลือดเดียวกัน และมีอย่างอื่นที่แมตซ์กันด้วย”
“ไปมาสองรอบแล้ว รอบสาม สี่ ก็จะไป ถ้าช่วยได้”
สำหรับลิเดีย แมทธิวบอกว่าแม้เจ้าตัวจะอยากบริจาคมาก แต่ก็ไม่สามารถบริจาคได้เพราะน้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด
เมื่อพิธีกรถามถึงเรื่องที่มีการพูดกันว่าคนที่หายจากโควิด ถูกสังคมรังเกียจ แมทธิวรับว่าเขาเองก็ยิน
“แม้กระทั่งคนยังไม่ติด แต่มีข่าวลือ ก็พูดกันไปเรื่อย โดนบูลลี่ไป น่าสงสารมาก กับการบูลลี่ไม่ให้เข้าหมู่บ้าน หรือละแวกที่คนอยู่ ผมเข้าใจนะเอาจริงๆ โควิดมันน่ากลัว คนที่เป็นก็มีความทรมาน ความเครียด ลำบาก แต่คนหายแล้ว ก็คือหาย ไม่มีติดอีก ไม่งั้นคุณหมอไม่ให้กลับ แม้กลับบ้านไปแล้ว คุณหมอก็สั่งให้ใส่หน้ากากอีก 2-3 สัปดาห์ ยิ่งมีเด็ก ผู้ใหญ่ในบ้าน ก็ให้ล้างมือกันไป ใส่แมสก์ ใส่หน้ากาก”
“เข้าใจยังไงก็กลัว แต่ต้องเห็นถึงจิตใจของมนุษย์”
สำหรับตัวเขาเอง แมทธิวบอกว่าโชคดีที่คนในบ้านมาความเข้าใจ และได้รับข้อมูลจริงจากพวกเขาและแพทย์
“บอกตรงๆ เรากลัว เกรงใจคนในบ้านมาก ว่ากลับไป 3 สัปดาห์ยังไม่ถอดหน้ากาก กินข้าวนอกบ้าน ต้องถอดหน้ากากกิน จะกินน้ำทีต้องเดินออกไปนอกบ้าน เพราะมีความเกรงใจ ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำในช่วงแรก แต่ถ้าเขาได้รับความเข้าใจจากคนในหมู่บ้าน หรือคนในครอบครัวจะทำให้จิตใจเขาแข็งแรงขึ้นมา”
ครั้นพิธีกรถามว่า กรณีที่ออกนอกบ้าน คนอื่นๆมีปฏิกิริยาอย่างไร มีคนเดินหนีบ้างไหม?
“ผมคิดว่าคงมี”
“ก็เข้าใจ ไม่ว่ากัน ถ้าอยู่ในระดับโอเค รับได้ แต่ถ้ามีการพูดหรือรังเกียจ เหมือนบูลลี่ ถึงจะเป็นการแซวเล่นก็มีผลต่อจิตใจ ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ถ้าคุณหมอกล้าให้เขากลับมาบ้าน แสดงว่าเขาหายแล้วแน่นอน”
ขณะที่ในส่วนคนที่หายแล้วและโดนบูลลี่ “ก็อยากให้ใจเย็นด้วย”
“เราผ่านอะไรหนักๆ มาแล้ว อยากให้นิ่งนิดนึง พยายามรับความเข้าใจ ว่าคนนี้เขาอาจไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา อาจกลัว และรู้ข้อมูลน้อย ก็ว่ากันไปตามข้อมูล”
ส่วนเรื่องที่ภาครัฐพิจารณาเกี่ยวกับการคลายล็อกดาวน์เฟส 3 นั้น แมทธิวบอกว่า
“ก็ดีใจด้วยกับการคลายล็อกดาวน์ มันช่วยธุรกิจหลายๆ อย่าง และช่วยคนหลายๆ คน แต่ก็อยากให้ระมัดระวังกันเหมือนเดิม เฟส 2 ของโควิดมันมีแน่ จะมากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้ แต่ยังไงเราควรใช้ชีวิตระมัดระวัง สิ่งที่คุณหมอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแนะนำมาตลอดทำไป อย่าชะล่าใจ การ์ดอย่าตก หน้ากากเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดเลย ล้างมือบ่อยๆ เจล สามอย่างนี้ 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว มันสุดยอดมาก”
“ถ้ายอดประเทศไทยอยู่แค่นี้มันจะสวยเลย รอวัคซีคอย่างเดียว แล้วจะกลับไปเหมือนเดิม”
“คลายล็อกดาวน์แต่อย่าคลายความระมัดระวังของตัวเอง”