ตำรวจจับนักข่าวซีเอ็นเอ็นทำข่าวจลาจลผิวสี

https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200529/news_owYBiemGGn230636_533.jpg?v=202005300910
https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200529/news_pQHxkvXbJy230638_533.jpg?v=202005300910

ตำรวจจับกุมนักข่าวซีเอ็นเอ็นขณะเข้าไปทำข่าวจลาจลผิวสีที่เมืองมินนิอาโปลิสรัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา แต่ตอนหลังยอมปล่อยตัว

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองมินนิอาโปลิสรัฐมินนิโซตาประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 29พ.ค.ว่า สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นคือนายโอมาร์ เจมิเนซ ขณะพูดคุยเพื่อสอบถามข้อมูลกับตำรวจซึ่งมีไม้กระบอง หมวกนิรภัยในเหตุการณ์จลาจลและชุมนุมประท้วงของประชาชนที่ไม่พอใจการกระทำของตำรวจผิวขาวที่ทำให้ชายผิวสีชาวอเมริกันชื่อนายจอร์จ ฟลอยด์ วัย 46 ปีเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาในเมืองมินนิอาโปลิส ขณะเข้าทำการจับกุมนายฟลอยด์เพราะต้องสงสัยว่าใช้แบงก์ปลอม ตำรวจจับเขาใส่กุญแจมือและจับให้หมอบลงกับพื้นโดยเอาเข่ากดไว้ที่คอของผู้ต้องสงสัยรายนี้ มีผู้เห็นเหตุการณ์ได้ถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐานด้วย ซึ่งในคลิปวิดีโอยังแสดงให้เห็นว่านายฟลอยด์ได้ร้องบอกว่า”หายใจไม่ออก” แล้วก็แน่นิ่งไปจนสุดท้ายเสียชีวิตนั้น
ตำรวจได้จับกุมใส่กุญแจมือนายเจมิเนซ ซึ่งตัวเขาก็แสดงความกังขาว่าทำไมถึงถูกจับและด้วยเหตุผลหรือข้อหาอะไร แต่ถูกนำตัวออกไปจากที่เกิดเหตุ นอกจากนั้นก็ยังมีโปรดิวเซอร์และช่างภาพที่ทำงานร่วมกับนายเจมิเนซถูกจับกุมไปด้วย
สำหรับนายเจมิเนซนั้นเป็นคนผิวสีด้วย ซึ่งทางซีเอ็นเอ็นระบุว่า มีนักข่าวผิวขาวของซีเอ็นเอ็นที่เข้าไปทำข่าวเช่นกัน แต่ไม่ได้ถูกจับกุมด้วย
ต่อมานายเจมิเนซได้กลับมาทำข่าวได้อีกครั้ง หลังตำรวจปล่อยตัวเขา โดยซีเอ็นเอ็นระบุว่า นายทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาได้ออกมากล่าวขอโทษต่อซีเอ็นเอ็นแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ซีเอ็นเอ็นได้ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของตำรวจโดยระบุว่า เข้าข่ายละเมิดบทบัญญัติเพิ่มเติมของรัฐธรรมนูญสหรัฐทั้งที่ผู้สื่อข่าวและทีมข่าวแจ้งกับตำรวจอย่างชัดเจนว่าเป็นผู้สื่อข่าวที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่

เครดิตภาพAFP