https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2020/05/%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1.jpg

‘แรมโบ้’ ยัน ‘นายกฯตู่’ จะเดินหน้าช่วยคนเดือดร้อนทุกกลุ่ม หนุนคง พรก.ฉุกเฉิน

by

‘แรมโบ้’ ยัน ‘นายกฯตู่’ จะเดินหน้าช่วยคนเดือดร้อนทุกกลุ่ม หนุนคง พรก.ฉุกเฉิน

‘แรมโบ้’ ยัน ‘นายกฯตู่’ จะเดินหน้าช่วยประชาชนเดือดร้อนทุกกลุ่ม ไม่ถอดใจแน่นอน ย้ำการคง พรก.ฉุกเฉิน เพื่อป้องกันแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ระบุการใช้จ่ายเงินกู้จะเป็นไปอย่างโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ระบุว่า นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปราย ร่าง พรก.เงินกู้ ที่ระบุว่าการเยียวยาประชาชนยังเป็นจำนวนน้อย ว่าที่ผ่านมานายกฯ และรัฐบาลให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเต็มที่ ทั้งมาตรการเยียวยาประชาชนเงิน 5,000 บาท เยียวยาเกษตรกร รวมถึงกลุ่มเปราะบาง และขณะนี้กำลังเร่งพิจารณาเยียวยาเพิ่มเติม เร่งพิจารณาช่วยเหลือคนไทยทุกกลุ่มให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม

นอกจากนี้ยังให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ อีก เช่นมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้า และน้ำ ให้ธนาคารปล่อยกู้ฉุกเฉินอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 ก่อน
ส่วนที่ นพ.ชลน่านอภิปรายถึงการตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. กลายเป็นศูนย์บริหารความมั่นคงให้กับรัฐบาล ไม่ใช่การบริหารในภาวะวิกฤตนั้น อยากชี้แจงว่าตามโครงสร้าง ศบค.แล้ว มีนายกฯ เป็น ผอ. และมีปลัดฯ หลายกระทรวงเข้ามาช่วยทำงาน โดยนายกฯ ได้มีการเรียกประชุมอย่างต่อเนื่อง เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือ โดยไม่ได้ปล่อยให้หน่วยงานไปแก้ไขกันเองเพื่อให้เป็นการทำงานที่เป็นเอกภาพ มี ศบค. เป็นศูนย์รวมพิจารณาตัดสินใจสั่งการ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเสียหายต่อประชาชน ดังนั้นทุกอย่างมีการตัดสินใจร่วมกัน จึงทำให้เกิดผลดีตามมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนการคง พรก.ฉุกเฉิน ไว้นั้น นายสุภรณ์ ย้ำว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย ก็เชื่อว่านายกฯ จะผ่อนปรนมาตรการ ทั้งนี้ในเดือนมิถุนายน จะมีการผ่อนปรนระยะที่ 3 และ 4 ให้กับประชาชน ซึ่งถือว่าบรรยากาศเริ่มผ่อนคลายแล้ว

ขณะเดียวกันนายกฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเฉพาะที่มีข่าวการทุจริตหักหัวคิวสถานที่กักตัวของรัฐ ซึ่ง นายกฯ ได้สั่งการผ่านผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้เร่งหาตัวกลุ่มคน หรือ ขบวนการที่เรียกหักค่าหัวคิว โรงแรมที่เปิดใช้เป็นสถานที่กักตัวแห่งรัฐแล้ว

นายสุภรณ์ ยังกล่าวถึงกรณีนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตว่า การออกเป็นพรก.เงินกู้ของรัฐบาล ต้องการหนีการตรวจสอบจากผู้แทนประชาชนจริงหรือไม่ว่า ประเด็นนี้ท่านนายกฯ ได้ชี้แจงในที่ประชุมสภาฯ แล้ว โดยได้ตระหนักถึงความห่วงใยในประเด็นในการรักษาวินัยการเงิน การคลังของประเทศและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายเงินพร้อมยืนยันว่า การใช้จ่ายเงินกู้จะเป็นไปอย่างโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้

“ท่านนายกฯ ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ท่านห่วงใยคนไทยทุกคน เงินทุกบาททุกสตางค์ ต้องให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ใครจะหากินบนความเดือดร้อนของประชาชน นายกฯ ไม่ยอมเด็ดขาด ขอให้ฝ่ายค้านเชื่อมั่นในความจริงใจตั้งใจในการใช้งบประมาณว่าจะมีการตรวจสอบอย่างรัดกุม มีการติดตามใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้เกิดการรั่วไหลหรือเสียหายเด็ดขาด ถ้าพบว่าบุคคลใดหรือหน่วยงานใดมีพฤติกรรมเก็บหัวคิวแสวงหาผลประโยชน์ท่านจะลงโทษอย่างเฉียบขาดไม่ละเว้นอย่างแน่นอน” นายสุภรณ์ฯ กล่าว