https://www.innnews.co.th/wp-content/uploads/2020/05/%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%AA3%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%9A%E0%B8%8B%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B5.jpg

เฟส3ลุง-เจ็บไม่จบซะที?

@ท่ามกลางเสียงอื้ออึงที่”แตกต่าง”ทั้งจาก”อาจารย์หมอ”และจากหลายฝ่าย กับจังหวะการ”คลายล็อก”“โควิดขาลง”ใน เฟส3 แล 4 ที่”ลุง”ยังคงยืนยันในการคง ”พรก.ฉุกเฉิน” ต่อไปแม้หลัง 30 มิ.ย.ไปแล้วก็ยังไม่บอกว่าจะต่อหรือไม่ โดย”ศูนย์โควิด” หรือ ศบค.ที่ ”ลุง”นั่งหัวโต๊ะวันนี้(29พ.ค.) ได้ฤกษ์เคาะบรรดากิจการที่จะคลายล็อกใน”เฟส3” โดยปรับเวลาเคอร์ฟิวใหม่ 23.00 – 03.00 น. ให้เดินทางข้ามจังหวัดได้ โรงหนัง โรงละคร เปิดได้ตามมาตรการเว้นระยะห่าง นวดไทยก็เปิดได้ แต่ห้ามนวดหน้า และยังไม่เปิดอาบอบนวด ส่วนสถานศึกษาให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณารายแห่ง

@เรียกว่ามารอบนี้”ลุง”ออกตัวไว้ตั้งแต่เมื่อวานเย็น(28พ.ค.) แล้วว่า จะคลายล็อกให้ได้มากที่สุด ยกเว้นที่ยังเสี่ยงที่ลุงน่าจะหมายถึงบรรดาโรงเรียน  ”สนามมวย” สถานบริการผับบาร์ ที่ก่อนหน้าเมื่อต้นสัปดาห์มีข่าวว่าจะมีการเปิดโรงเรียนนานาชาติและเอกชน ก่อนจากนั้นค่อยเป็นโรงเรียนรัฐบาล และข่าวจากแวดวงค่ายมวย ว่า จะมวยกลับมาเปิดแข่งขันต้นเดือนมิ.ย. ในขณะที่บรรดาผับก็มีข่าวการกลับมาเปิดแต่ต้องมีมาตรการเข้มเช่นกัน โดย”ลุง”ออกตัวว่า หลายคนคงต้องเจ็บปวด รอไปก่อน ยืนยันว่านายกฯเองก็เจ็บปวดไม่สบายใจเหมือนกัน แต่ก็ยังย้ำว่าอย่าการ์ดตก อย่าถอดหน้ากาก และว่าหลังจากนี้ยังต้องใช้เงินอีกจำนวนเท่าไหร่ไม่รู้

@ที่อย่าลืมว่า”ลุง”ถูกทวงถามจากหลายฝ่ายว่า ”มาตรการเข้ม”ที่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจปากท้อง ทำให้ประชาชนเดือดร้อน อาจเกินความจำเป็นกับสถานการณ์ ”โควิดขาลง” ตอนนี้ ที่แม้ว่ายอดตัวเลขติดเชื้อจาก”ศูนย์”หลายวันจะสวิงกลับมาที่เลข 2 ตัว ตั้งแต่เมื่อวานถึงวันนี้คือ 11 ราย แถมตัวเลขการหายก็ไม่มี และตัวเลขผู้รักษาในโรงพยาบาลก็กลับมาเพิ่มขึ้นนับสิบคนคือ 74 ราย ตัวเลขขาลง กลายเป็นมา”อืด”ช่วงปลาย ที่มีผู้ป่วยสะสมรวม 3,076 ราย กลับบ้านแล้ว 2,945 ราย ที่การ”สวิงของตัวเลข”ถูกตั้งข้อสังเกตจาก”อดีตกุนซือ” รองนายกฯ ก่อนหน้านี้ว่า อาจเป็นผลมาจากเปลี่ยน”ชนิดยา”ในการรักษาตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขล่าสุด 1 พ.ค. หรือไม่ เพราะยาตามประกาศเดิมเดือนมี.ค.สามารถรักษาหายถึงกว่า 3 พันคน แถมยังมีการรักษาจาก”พลาสม่า”ของผู้ติดเชื้อที่หายแล้วอีก และเตือนว่าไม่ควรลากเวลาการเจ็บป่วยนานออกไปเพราะจะถึงแก่ชีวิตได้

@กระนั้นก็น่าสนใจกับการออมาเตือนของ”อาจารย์หมอ” ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ว่า “โควิด”รอบ 2 มาแน่ รอบแรกคนตายจำนวนหนึ่ง แต่รอบที่ 2 อาจจะมีมากกว่ารอบแรก 1 เท่าตัว ถ้า 1 วันมีคนติดเชื้อ 100 คน กระจายไปแบบยกกำลัง 2 ไม่ได้คูณ 2 ยืนยันว่าไม่ได้ขู่ เพราะติดตามทุกประเทศที่บางประเทศอย่างญี่ปุ่นที่ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน เปิดโรงเรียนกกลับมาระบาดหนัก  โดยตนมั่นใจว่า”รอบ2”มาแน่ เพราะโดยธรรมชาติมีโอกาสกลับเข้ามา แต่กลับเข้ามาเราไม่ห่วง ที่ห่วงคือ สูง หรือ ไม่สูง ถ้ากลับเข้ามาแล้วติดเชื้ออยู่หน่อยหนึ่งแล้วกดลงมาได้ ก็ไม่เป็นไร  ถ้ามาแล้วมีการติดเชื้อ ทุกคนที่ติดเชื้อแล้วไม่ตาย จะเกิดภูมิต้านทานขึ้น ถ้าภูมิต้านทานเยอะๆ จนกระทั่งครอบคลุม 2 ใน 3 ของคนไทยทั้งประเทศ โควิดก็อยู่ไม่ได้ ส่วนจะทำให้คลื่นลูกที่ 2 ไม่รุนแรง อยู่ที่ 3 กลุ่ม คือ ผู้บริหารประเทศ ผู้ประกอบการ และประชาชน โดยเฉพาะ “ผู้มีอำนาจ”ไม่ควรผ่อนคลายเร็วเกินไป จนต้องกลับมาปิดประเทศใหม่ อย่าปกปิดความจริง กับประชาชนจน “ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ”

@ทั้งหมดทั้งมวลต้องติดตามต่อว่า”ลุง” ที่อยู่ระหว่างกลางในการตัดสินใจจะสามารถ ”บาลานซ์” การจัดการได้หรือไม่ ระหว่างการบริหารจัดการ”โควิดขาลง”กับ ”หมอ” ให้ไม่เกิดการ”สวิงกลับ”ของการระบาดรอบ 2 ตามคำเตือนของ”อาจารย์หมอ”กับ การจัดการปัญหา ”ผลกระทบ” เศรษฐกิจปากท้องประชาชน ที่ยอมเจ็บเพื่อให้จบ แต่ถึงตอนนี้จะเข้า”เฟส3”การคลายล็อกที่แม้ลุงจะ”ปล่อยกิจการ”ออกมาเยอะ แต่กลับยังมีทีท่าว่าจะยังไม่จบซักที…จนทำให้บรรดาผู้อยู่ใน ”เฟส4” เริ่มออกอาการ ”อึดอัด” และเริ่มทนไม่ไหวกับความเดือดร้อนที่ได้รับ ที่บางส่วนเริ่มมีการใช้ ”รูระบาย” ผ่าน ”ฝ่ายการเมือง”ในสภาฯ ในจังหวะ อยู่ในห้วง ”ซักฟอก” ตรวจสอบ การใช้เงินใน พรก.กู้เงิน 3 ฉบับ ในสถานการณ์โควิดแล้ว