https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200529/news_buUIAnbvDb162819_533.jpg?v=202005291811

"สธ."แจ้งอีก6เดือนเริ่มทดลอง ฉีดวัคซีน"โควิด-19"ในมนุษย์!

สธ.แจ้งศบค.คาดอีก 6 เดือนอย่างเร็วเริ่มทดลองฉีดวัคซีน“โควิด”ในคน ห่วงหลายกิจการ-ประชาชนการ์ดตก  “บิ๊กตู่”สั่งทุกหน่วยเร่งหาข้อก.ม.ใช้เสริมพ.ร.บ.โรคติดต่อ รองรับหลังเลิกใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน  

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.  รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล  แจ้งว่า  ในการประชุมศูนย์บริ​หารสถานการณ์การแพร่​ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)  กระทรวงสาธารณสุขได้​รายงานความคืบหน้าของการศึ​กษาและทดลองวัคซีนป้องกั​นโรคโควิด-19 ซึ่งตอนนี้เป็นการทดลองกับลิง แต่คาดว่าอีกประมาณ 6 เดือน น่าจะสามารถทดลองฉีดวัคซีนนี้​ในมนุษย์  และอาจต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีเป็นอย่างน้อย จึงจะมีวัคซีนดังกล่าวออกมาใช้​ได้  

ส่วนสถานการณ์การแพร่​ระบาดและจำนวนผู้ติดเชื้อ แม้ในไทย ถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ในอีกหลายประเทศยังน่าเป็นห่​วง ขณะเดียวกัน การตรวจพบคนไทยที่ติดเชื้อหลั​งกลับจากต่างประเทศมีจำนวนเพิ่​มขึ้น  อีกทั้ง ผลจากการสำรวจพฤติ​กรรมประชาชนในระยะหลัง พบว่า คนจำนวนมากมีการป้องกันตั​วเองลดลง แม้ยังสวมหน้ากากอยู่ก็ตาม รวมถึงมีประชาชนเดินทางออกนอกจั​งหวัด และมีการพบปะรวมกลุ่มกันมากขึ้น ขณะที่สถานที่หลายแห่งมีการจั​ดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไม่​เข้มข้นเท่าที่ควร  

ทั้งนี้ นายกฯย้ำในที่ประชุมว่าทุกหน่​วยต้องช่วยย้ำประชาชนว่าอย่​าประมาท และต้องปฏิบัติมาตรการป้องกั​นโรคอย่างเข้มงวด แม้ได้เข้าสู่การผ่อนปรนกิ​จการและกิจกรรม ในระยะที่ 3เพราะสถานการณ์ของโรคดังกล่าวถื​อว่ายังวางใจไม่ได้  และนายกฯสั่งการให้ที​มงานความมั่นคงไปตรวจสอบกิ​จการต่างๆที่ได้รับการผ่​อนคลายระยะที่ 3 ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรการที่ศบค.​กำหนดครบถ้วนหรือไม่

แม้ในที่ประชุมศบค.วันนี้ (29 พ.ค.) ยังไม่ได้หารือกันว่าควรจะใช้ พ.ร.ก.การบริ​หารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ไปถึงเดือนไหน  แต่นายกรัฐมนตรีกำชับบรรดาหน่​วยงานที่อยู่ในศูนย์ปฏิบัติต่​างๆของ ศบค.ให้เร่งศึกษาว่​าหากในอนาคตจะยกเลิกการใช้พ.ร.​ก.นี้ จะต้องออกมาตรการอะไรมารองรับ หรือสามารถนำกฎหมายใดบ้างที่ใช้​ในการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิ​ด-19  เพราะพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ยังไม่เพียงพอ เนื่องจาก การทำงานในการควบคุมและป้องกั​นโรคมีหลายด้านประกอบกัน  

ถ้าหลังจากยกเลิกการใช้พ.ร.ก.​ฉุกเฉินฯ แล้วพบว่าสถานการณ์ของโรคเปลี่​ยนไปจนทำให้รัฐบาลจำเป็นต้​องออกคำสั่งใดๆ อาทิ สั่งปิดกิจการ หรือต้องจำกัดการเดิ​นทางของประชาชน ก็จะทำให้หน่วยงานรัฐถูกคนบางส่​วนใช้กฎหมายอื่นๆไปยื่นฟ้องต่​อศาลปกครอง ซึ่งจะส่งผลกระทบกับการแก้ปัญหา  ซึ่งนายกฯห่วงประเด็นตรงนี้อย่​างมาก จึงย้ำให้ทุกหน่วยงานเตรี​ยมความพร้อมเข้าสู่ระบบปกติ เพราะไม่มีทางที่จะใช้พ.ร.ก.ดั​งกล่าวไปได้ตลอด.