ไทยแอร์เอเชียกำลังพิจารณาการควบรวมกิจการกับสายการบินต้นทุนต่ำคู่แข่ง

บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด กำลังพิจารณาการควบรวมกิจการกับสายการบินต้นทุนต่ำคู่แข่ง เพื่อควบคุมสถานการณ์สงครามราคาที่อาจเกิดขึ้น เมื่อสายการบินต่างๆสามารถกลับมาให้บริการในประเทศ ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวกับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์

คุณธรรศพลฐ์ กล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับสายการบินอื่นๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการควบรวมกิจการ แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากยังไม่มีความแน่นอน

“หากประเทศไทยยังไม่สามารถดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวภายในเดือนกรกฎาคม ไทยแอร์เอเชียอาจจะต้องยุติการจ้างงานพนักงานบางส่วนจากทั้งหมด 6,000 คน รวมถึงการลดขนาดสายการบินและฝูงบินในปีหน้า เพื่อรักษาสภาพความสามารถในการดำเนินธุรกิจ” คุณธรรศพลฐ์กล่าวเพิ่มเติม

หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ระบุว่า สถานการณ์การบินของประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 รวมถึงข้อจำกัดของรัฐบาลเกี่ยวกับการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศและภายในประเทศ รวมถึงการปิดท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต

รายได้ของไทยแอร์เอเชีย ประมาณ 40% มาจากเที่ยวบินในภาคใต้ของประเทศไทยที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต

"ไทยแอร์เอเชียใช้งบประมาณกว่า 1.2 พันล้านบาทต่อเดือนในช่วงที่ปิดเมือง ฝูงบินกว่า 60 ลำของไทยแอร์เอเชียต้องจอดค้างอยู่ตามท่าอากาศยานต่างๆ" คุณธรรศพลฐ์กล่าว

ประเทศไทยมีสายการบินต้นทุนต่ำ 7 สายการบิน แต่คุณธรรศพลฐ์ เชื่อว่า ผู้ให้บริการเพียง 3 รายนั้นเพียงพอสำหรับการแข่งขันในตลาด "การควบรวมกิจการเป็นไปได้ถ้าการบินในประเทศไทยดำเนินต่อไปด้วยสงครามราคาที่เป็นมายาวนานขณะนี้สายการบินมีแหล่งรายได้ที่จำกัดมากขึ้น"

ไทยแอร์เอเชียรายงานรายได้ในไตรมาสแรกปีของปี 2020 อยู่ที่ 9.4 พันล้านบาท ลดลง 19% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วโดยมีผลขาดทุนสุทธิ 671 ล้านบาท