https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200529/news_HyZOAPFSHF145809_533.jpg?v=20200529157

มท.2-เลขาศอ.บต.นั่งฮ.สำรวจสถานการณ์ไฟป่าพรุบาเจาะ

 มท.2-เลขาศอ.บต. นั่ง เฮลิคอปเตอร์ บินสำรวจสถานการณ์ไฟป่าพรุบาเจาะ จ.นราธิวาส สั่งจนท. ปภ. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 

เมื่อวันที่ 29 พ.ค. นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย(มท.2)​ พร้อมด้วย พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศอ.บต. นั่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจความเสียหายไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะ ในพื้นที่อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส  โดยไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะ ได้เกิดสถานการณ์มาตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในบริเวณพื้นที่ของนิคมสหกรณ์บาเจาะ ต.ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายกว่า 2,120 ไร่  

จากนั้นนายนิพนธ์ ได้ประชุมร่วมกับ นายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส พล.ร.​ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศอ.บต. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ผู้แทนโครงการชลประทานจ.นราธิวาส สถานีควบคุมไฟป่า นิคมสหกรณ์บาเจาะ รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 5  ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส

โดยในที่ประชุม นายนิพนธ์ ได้รับฟังการรายงานและแก้ไขสถานการณ์ไฟป่าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้บูรณาการปฏิบัติร่วมกันเพื่อป้องกันการซ้ำซ้อน โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติในภาพรวม และ บริหารจัดการสถานการณ์ให้คลี่คลายโดยเร็วภายใน5-7วัน

https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200529/news_kEBEQdLExj145810_533.jpg?v=20200529157?v=9389

     

นายนิพนธ์ ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา ควบคุมสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ ทั้งส่งเครื่องสูบน้ำระยะไกลเพิ่มอีก 1 เครื่องจากเดิมที่ส่งไปแล้วจำนวน 2 เครื่อง และเจ้าหน้าที่ผู้มีความชำนาญ ดำเนินการทันทีตั้งแต่เกิดสถานการณ์ พร้อมทั้งประสานงานร่วมกับศูนย์ชลประทาน เขต17 สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 สงขลา และหน่วยงานอื่นๆ สนับสนุน เครื่องสูบน้ำขนาดตามความเหมาะสมของพื้นที่ รถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ รถแบคโฮ เพื่อร่วมบูรณาการดับไฟป่า นอกจากนี้ ในส่วนพื้นที่ที่เข้าไปปฏิบัติงานได้ยากและมีความเสี่ยงสูง ได้มีการสั่งการให้ เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง จากหมวดบินเฉพาะกิจภาคใต้ เข้าปฏิบัติภารกิจทิ้งน้ำดับไฟในพื้นที่อีกด้วย

สำหรับพื้นที่ป่าพรุในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ มีพื้นที่ทั้งสิ้น 90,000 ไร่ โดยประมาณ และได้กันไว้เป็นป่าส่วนกลางไว้ร้อยละ 20 ของพื้นที่ โดยมีลำคลองกันเป็นแนวไว้เพื่อป้องกันชาวบ้านบุกรุกในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งการเกิดสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุอยู่ในขณะนี้ สามารถการไหม้ทั้งแนวราบและแนวดิ่งที่ลงลึกถึงตะกอนที่ทับถมในพื้นที่ป่าพรุ ส่งผลให้การดับไฟในที่ป่าพรุค่อนข้างยากลำบาก และอาจต้องใช้น้ำจำนวนมากเพื่อดับไฟป่าในครั้งนี้ และสถานการณ์โดยรวมยังคงมีไฟคุกรุ่นอยู่ และอาจมีแนวโน้มลุกลามอีก

ซึ่งนายนิพนธ์ ได้สั่งการกำชับการปฏิบัติให้มีการจัดเวรยามของชาวบ้านในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ปภ.ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหน่วยสนับสนุนเครื่องจักรเตรียมความพร้อม เพื่อป้องกันและควบคุมสถานการณ์.