จีนฮึ่มพร้อมส่งทหารบุก ‘ไต้หวัน’ สกัดแยกตัวเป็นเอกราช หากไม่มีทางเลือกอื่น
by ผู้จัดการออนไลน์รอยเตอร์ - จีนพร้อมที่จะส่งทหารโจมตีเกาะไต้หวัน หากไม่มีทางเลือกอื่นที่จะสกัดกั้นความพยายามแยกตัวเป็นเอกราชได้ นายพลอาวุโสของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนระบุวันนี้ (29 พ.ค.) ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนแรงๆ จากปักกิ่งไปถึงไทเป
ระหว่างการประชุมครบรอบ 15 ปี การบังคับใช้กฎหมายห้ามแยกประเทศ (Anti-Secession Law) ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง พล.อ. หลี่ ซัวเฉิง (Li Zuocheng) เสนาธิการกรมกิจการเสนาธิการร่วม ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จีนจะใช้กำลังยับยั้งความพยายามแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวัน
กฎหมายห้ามแยกประเทศซึ่งบังคับใช้เมื่อปี 2005 เปิดทางให้จีนสามารถส่งทหารเข้าโจมตีเกาะไต้หวัน หากไทเปประกาศแยกตัวเป็นเอกราชหรือแสดงทีท่าว่าจะทำเช่นนั้น
“หากโอกาสในการรวมชาติอย่างสันติสูญสลายไป กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน รวมถึงพลเมืองจีนทั้งประเทศและประชาชนในไต้หวัน จะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อทำลายแผนการของพวกแบ่งแยกดินแดน” หลี่ กล่าว
“เราไม่ขอสัญญาว่าจะไม่ใช้กำลังทหาร และขอสงวนไว้ซึ่งทางเลือกที่จะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็น เพื่อธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพและควบคุมสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวัน”
แม้จีนจะไม่เคยปฏิเสธการใช้กำลังนำไต้หวันกลับมาอยู่ใต้การปกครอง แต่ก็ไม่บ่อยนักที่ผู้บัญชาการทหารระดับสูงสุดของจีนจะยื่นคำขู่อย่างโจ่งแจ้งในเวทีสาธารณะเช่นนี้ และถือเป็นเรื่องที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในขณะที่จีนกำลังถูกสหรัฐฯ และนานาชาติประณามแผนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติกับฮ่องกง
ปมพิพาทไต้หวันนับเป็นประเด็นละเอียดอ่อนอย่างยิ่งสำหรับจีนซึ่งถือว่าเกาะแห่งนี้เป็น ‘มณฑล’ หนึ่งของตน และไม่พอใจที่สหรัฐฯ ในยุคของ โดนัลด์ ทรัมป์ ให้การหนุนหลังไทเปอย่างออกหน้าออกตา
หลี่ จ้านซู (Li Zhanshu) ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสลำดับที่ 3 ของพรรคคอมมิวนิสต์ กล่าวในที่ประชุมเช่นกันว่า ปฏิบัติการทางทหารจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่จีนจะใช้
“ตราบใดที่โอกาสในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติยังคงมีอยู่ แม้จะเพียงน้อยนิด แต่เราก็จะพยายามให้มากขึ้นเป็นร้อยเท่า” หลี่ กล่าว แต่ก็ไม่วายสำทับว่า “เราขอเตือนพวกที่สนับสนุนเอกราชและการแบ่งแยกดินแดนไต้หวันว่า หนทางสู่การเรียกร้องเอกราชไต้หวันคือทางตัน และความพยายามท้าทายกฎหมายฉบับนี้ในรูปแบบใดก็ตามจะต้องเผชิญบทลงโทษรุนแรง”
ในขณะที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนยกให้สูตรหนึ่งประเทศ-สองระบบเป็น “เสาหลัก” ของนโยบายไต้หวัน แต่ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ผู้นำไทเป กลับยืนยันว่า ไต้หวันเป็นรัฐอิสระที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐจีน (Republic of China) และไม่ได้ต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน