ศบค.ยันสถานการณ์โควิดดีขึ้น พร้อมยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ต้องมีมาตรการอื่นรองรับ ส่วนคลายล็อกเฟส 3 ต้องเข้ม 3 เรื่อง

by
https://mpics.mgronline.com/pics/Images/563000005762301.JPEG
แฟ้มภาพ

ศบค.แจงคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อบริหารสถานการณ์ให้มีประสิทธิภาพ แต่หากสถานการณ์ดีขึ้นจะขยายผ่อนปรนระยะ 4 พร้อมพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หามาตรการอื่นมารองรับ พ.ร.บ.โรคติดต่อ หรือใช้กฎหมายอื่นทดแทน ส่วนคลายล็อกเฟส 3 ต้องทำ 3 เรื่อง คัดกรองวัดไข้-ลงทะเบียนไทยชนะ-นวัตกรรมเข้าออก จองคิวออนไลน์

วันนี้ (29 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้นั้น นายกรัฐมนตรี หรือ ผอ.ศูนย์ฯ กล่าวถึงการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้การบริหารสถานการณ์ในภาพรวมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเอกภาพ อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจเจตนาการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากสถานการณ์ดีขึ้นจะขยายสู่การผ่อนปรนระยะที่ 4 และพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป ก็ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการอย่างต่อเนื่องราบรื่น และควบคุมสถานการณ์ต่อไปให้ได้ เช่น มีมาตรการมารองรับการใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่จะมาทดแทน พ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้ ก็ฝากทุกคนเชื่อมต่องานหากไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับการรายงานชุดตรวจตามมาตรการหลัก ตั้งแต่วันที่ 17-28 พ.ค. ตรวจกิจการทั้งสิ้น 264,458 แห่ง ปฏิบัติตามมาตรการ 263,997 แห่ง ปฏิบัติไม่ครบ 416 แห่ง ไม่ปฏิบัติตาม 5 แห่ง ส่วนเคอร์ฟิวมีคดีลดลงจากการผ่อนคลายขึ้นและความร่วมมือประชาชน ส่วนการช่วยเหลือประชาชนของทางมหาดไทย มีคนเดินทางเข้ามาประเทศไทยผ่านด่านพรมแดนต่างๆ 14,910 คน พ้นการกักตัว 14 วัน ส่งภูมิลำเนาแล้ว 11,230 คน คงเหลือ 3,680 คน ส่วนกิจการต่างๆ ที่งดไปและปิดไป 47,164 แห่ง ได้รับความร่วมมืออย่างดี ส่วนที่เปิดและผ่อนคลาย 291,394 แห่ง ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี ที่ทำได้ดีคือ ห้างสรรพสินค้า สถานรับดูแลเด็กและผู้สูงอายุ และศูนย์การเรียนรู้และห้องสมุดสาธารณะ

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า การเสนอมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 เรื่องสำคัญที่ต้องดดำเนินการ คือ 1. มีมาตรการคัดกรองไข้ ไอ หอบเหนื่อย จาม หวัด ทั้งพนักงานและผู้ใช้บริการ ต้องรายงานหน่วยงานที่รับผิดชอบเมื่อพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 2. ทุกกิจการกิจกรรมต้องลงทะเบียนก่อนเข้าออกสถานที่ เพิ่มมาตรการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ หรือบันทึกข้อมูลและมีรายงานทดแทน 3. ให้พิจารณานวัตกรรมลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ ระบบการเรียนการสอน การจองคิวระบบออนไลน์ เพื่อให้ระบบบริการรูปแบบใหม่ในระยะยาวนำไปสู่การป้องกันควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ