https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200528/news_xIlpoSrjdF215130_533.jpg?v=20200529115

''Snowpiercer'' ปฏิวัติฝ่านรกน้ำแข็ง

"ดูหนังกับหมี" สัปดาห์นี้ รีวิวภาพยนตร์ซีรีย์แอ๊คชั่นไซไฟสุดมัน "Snowpiercer ปฏิวัติฝ่านรกน้ำแข็ง" เรื่องราวของรถไฟขบวนยักษ์ 1,001 ตู้ ที่ต้องวิ่งรอบโลกอย่างไม่มีวันจบสิ้น ขณะที่โลกทั้งใบกลายเป็นดินแดนเยือกแข็ง

ด้วยความคลาสสิคของ CG  มุมกล้อง บทหนัง ประกอบกับตัวละครที่แสดงบทบาทได้อย่างเข้มข้น แอ๊คชั่น-ดราม่าชีวิต ทั้งยังให้แง่คิดมุดมองต่าง ๆ จึงไม่น่าแปลกใจว่า  "SNOWPIERCER ยึดด่วน วันสิ้นโลก" ฝีมือผู้กำกับภาพยนตร์และนักเขียนบทชาวเกาหลีใต้ อย่าง "พง จุน-โฮ" ที่ประสบความสำเร็จจาก "พาราไซต์: ชนชั้นปรสิต" จะกลายเป็นหนังชวนให้ผู้ชมดูแล้ว...อยากกลับไปดูอีก!!!  ล่าสุดได้ถูกนำมารีเมคใหม่ในแบบฉบับของ "ซีรีย์" โดยใช้ชื่อว่า "Snowpiercer ปฏิวัติฝ่านรกน้ำแข็ง" ทางช่อง
NETFLIX

https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200528/news_gHegWIRAqT164955_533.jpg?v=20200529115?v=6467

"SNOWPIERCER ยึดด่วน วันสิ้นโลก" (ภาพยนตร์ปกติ) เท่าที่ "ดูหนังกับหมี" เคยผ่านตามาแล้วนั้น ต้องยอมรับว่า "พง จุน-โฮ" มีความคิดที่ละเอียดรอบด้าน สามารถทำหนังแอ๊คชั่นดราม่า ให้สะท้อนมุมมองสังคมปัจจุบัน เน้นหนักในเรื่องแนวคิด "ทุนนิยม" ที่ดูแลชีวิตของผู้คนไว้มากมาย

ขณะที่งานศิลป์ของการถ่ายทำนั้น สามารถสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะถ้าสังเกตให้ดีแล้ว การตีความหมายของการไปให้สุดทาง ก็คือการเดินหน้าต่อไปเรื่อย ๆ  โดยผู้กำกับชื่อดังเลือกที่จะใช้ทิศทางของ "ซ้ายไปขวา" ไม่คิดย้อนเดินกลับมาทางเก่า และเมื่อไปถึงสุดทางก็จะให้มองกลับมาในระหว่างทางอีกที เพราะประสบการณ์ที่พบเจอ ล้วนมีความหมายมากมายนั่นเอง

แต่สำหรับ "Snowpiercer ปฏิวัติฝ่านรกน้ำแข็ง" ที่กำลังกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในแวดวงหนัง และกลายเป็นภาพยนตร์ซีรีย์คุณภาพติดอันดับ 1 ใน NETFLIX อาจถูกเปรียบได้เหมือนกับ..."เหล้าใหม่ ในขวดแก้วใบเดิม ๆ..." ผลิตออกมาให้แตกต่างกันทั้งในด้านรสชาติ แต่เมื่อลิ้มลองแล้วยังให้ความรู้สึกเหมือนกันหลาย ๆ ด้าน

อย่างเช่น การทำให้ตู้ท้ายของขบวน คงไว้ซึ่ง "ความดาร์ก" เงามืด การตรึงอารมณ์ของผู้ชม....ให้เกิดอารมณ์หดหู่ ปล่อยหนูสกปรกออกมาวิ่งราวกับอาศัยในขยะ ขณะที่ฝั่งผู้มีฐานะอาศัยในพื้นที่ สะอาด มีแต่สิ่งดีงาม เครื่องตกแต่งหรูหรา จัดโทนสว่างเพื่อให้เกิดความหมายของคำว่า "ชนชั้นวรรณะ"  

https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200528/news_sPHWwCpVUK164955_533.jpg?v=20200529115?v=4596

เรื่องย่อ "Snowpiercer ปฏิวัติฝ่านรกน้ำแข็ง"
เมื่อนานาชาติ พยายามหยุดยั้งปรากฏการณ์ธรรมชาติโลกร้อนอย่างรุนแรง ด้วยการปล่อยสารเคมีขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่ผลที่ได้กลับมา คือ ทำให้โลกกลายเป็น"ยุคน้ำแข็งใหม่" สิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครเตรียมรับมือกับหายนะนี้เลย "มิสเตอร์ วีฟอร์ด" ได้สร้างขบวนรถถไฟขนาดยักษ์  "Snowpiercer" ที่มีตู้โดยสารมากถึง 1,001 ตู้ บรรจุเหล่าสัตว์ พืช และมนุษย์ ขึ้นไปด้วยกัน รถไฟขบวนนี้จะวิ่งไปตามเส้นทางต่าง ๆ ทั่วโลก โดยไม่มีการหยุดพัก มันสร้างกระแสไฟด้วยแรงขับเคลื่อนของตัวเอง มีระบบทรัพยากรอาหารในตู้ครบครัน 

https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200528/news_ijLdqEWzoh164956_533.jpg?v=20200529115?v=5420

รถไฟขบวนนี้ไม่ใช่แค่เพียงรถไฟไว้ใช้หลบภัย แต่มันคือโลกอีกโลกหนึ่ง ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ มีกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในตู้ขบวน ใครที่ไม่มีตั๋วรถไฟ ก็จะไม่มีสิทธิ์ขึ้นมาอาศัย ซึ่งคนที่มีตั๋วส่วนใหญ่เป็นพวกฐานะร่ำรวย แต่เพราะวันเริ่มออกเดินทางเกิดการจราจลขึ้น ผู้คนมากมายพยายามบุกขึ้นมาอาศัยในท้ายขบวน เพียงเพราะหวังจะมีชีวิตรอด

เจ้าหน้าที่ในขบวนยอมปล่อยเลยตามเลย ก่อนส่งกำลังทหารไปปิดท้ายตู้ แน่นอนว่า...กลุ่มท้ายตู้ต้องอยู่แบบ "อนาถา" กินของเหลือทิ้งจากผู้คนในขบวน ถูกปิดกั้นสิทธิต่าง ๆ และยังเกิดลัทธิกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเอง !!! การเข้ามาอาศัยในท้ายตู้ ก็ไม่ต่างอะไรกับติดคุกนรก ด้วยความคับแค้นใจที่สะสมเรื่อยมา จึงกลายเป็นจุดเริ่มของ "กลุ่มต่อต้านจากท้ายขบวน" ที่ต้องการยึดรถไฟให้ได้....

https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200528/news_wamRqlltje164956_533.jpg?v=20200529115?v=1325

สำหรับเนื้อเรื่องของ "Snowpiercer" ในซีรีย์นั้นมีความแตกต่างในด้านเวลา เพราะเป็นเหตุการณ์หลังจากรถไฟออกเดินทางมาแล้ว 7 ปี ขณะที่ "Snowpiercer" (ภาพยนตร์ปกติ) จะเป็นช่วงที่รถเดินทางมายาวนานกว่า 17 ปี แล้ว ดังนั้น....เรื่องในซีรีย์จึงต้องเกิดขึ้นมาก่อน หากอยู่ในจักรวาลเดียวกัน "Snowpiercer" ในซีรีย์ มีการเล่าผ่านตัวละครที่ชื่อ "เลตั้น"อดีตตำรวจสืบสวนมือดี ที่กลายเป็นพวก "หางแถว" หนึ่งในหัวหอกของพวกปฏิวัติ แต่เพราะเขาต้องโดนลากไปพัวพันกับเรื่องต่าง ๆ อย่างไม่คาดฝัน.... 

https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200528/news_WVJxceHmzh164956_533.jpg?v=20200529115?v=6374

จุดเด่นของ "Snowpiercer" แบบฉบับซีรีย์
ด้วยเนื้อเรื่องที่ยาวกว่า มีเวลาเล่าถึงรายละเอียดได้มากกว่า จึงได้เห็นความแตกต่างกับภาพยนตร์แทบทุกด้าน แนวทางเรื่องในหนังซีรีย์ไม่ใช่แค่พยายามยึดขบวนรถไฟ แต่กลับต้องคลี่คลายปริศนาด้วยการสืบสวน นอกจากนี้ยังมีการโชว์ ซีนบรรยากาศของตู้ต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่เกษตรกรรม ทำฟาร์มปศุสัตว์แบบเต็มระบบ การโชว์สถานที่พักผ่อนหย่อนใจต่าง ๆ ทำให้เกิดภาพที่กว้างขึ้น ชวนให้ผู้ชมสนใจอยากติดตามไปดูตู้อื่น ๆ เรื่อย ๆ ในส่วนของมุมกล้องและ CG ระดับคุณภาพ NETFLIX สามารถทำได้ออกมาอย่างสวยงามโดยไร้ข้อกังขา

https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200528/news_MxyOVMbGzT164957_533.jpg?v=20200529115?v=9243

จุดอ่อนของ "Snowpiercer" แบบฉบับซีรีย์
 "Snowpiercer" เพิ่งเสนอไปเพียง 2 ตอนแรก ซึ่งก็จะพอเข้าใจได้ว่าเป็นการทำให้เกิดมิติของเวลาในภาพยนตร์ซีรีย์ ด้วยการปูเรื่องของตัวละครสำคัญเอาไว้ก่อน แต่หากใช้เวลานานก็ย่อมทำให้รู้สึกยืดเยื้อได้ ตัวเรื่องพยายามยัดเยียดบทของตัวเอกที่เป็นอดีตตำรวจฝ่ายสืบสวนค่อนข้างมาก "เลย์ตัน" (รับบทโดย เดฟวีด ดิกส์) ต้องเข้าไปสางคดีแปลก ๆ ในตู้ขบวน ราวกับเป็นสายลับเข้าไปสืบราชการ ผลปรากฏว่าไม่โดดเด่น!! เท่ากับบทของ "เมลานี" (รับบทโดยเจนนิเฟอร์ คอนเนลลี) ที่มาทำงานให้ "คุณวิลฟอร์ด" ตั้งแต่ตอนแรก 

4
/5 สำหรับภาพยนตร์ซีรีย์แนวแอ๊คชั่นสืบสวน ที่พยายามสร้างความน่าสนใจใหม่ ๆ ที่แยกจากเนื้อเรื่องเดิม ๆ เพิ่มเติม คือ ชวนคอหนังแนวสืบสวนมานั่งดูได้มากขึ้น

https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200528/news_KiuRwdTBhk164954_533.jpg?v=20200529115?v=5245

------------------------------------
คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย "แพนด้าอ้วน"


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เว็บไซต์ ยูทูป และ NETFLIX

ร่วมสนับสนุนความสนุกในการชมภาพยนตร์โดย SF