พรรคแกนนำรัฐบาลมาเลเซียขับมหาเธร์พ้นสมาชิก

ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ถูกขับออกจากพรรคการเมืองที่เขาก่อตั้งเอง และตอนนี้เป็นแกนนำของรัฐบาลด้วย ยิ่งบ่งชี้เสถียรภาพอำนาจของนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยาสซิน "ยังไม่ปลอดภัย"

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ว่าพรรคคนพื้นถิ่นสามัคคีแห่งมาเลเซีย ( เบอร์ซาตู ) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลมาเลเซีย ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี ยกเลิกสถานภาพสมาชิกของดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด "โดยให้มีผลทันที"
 
เนื่องจากอดีตผู้นำมาเลเซียวัย 94 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งพรรเบอร์ซาตูและยังคงดำรงตำแหน่งประธานพรรคด้วย แสดงท่าทีอย่างชัดเจน ว่าไม่ยอมรับนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยาสซิน และยังมีการ "เคลื่อนไหวลับหลัง" เพื่อโค่นอำนาจผู้นำคนปัจจุบัน รวมถึงการที่ดร.มหาเธร์ย้ายไปนั่งรวมกับสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน ในพิธีเปิดการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา

The Star
 
ทั้งนี้ นอกจากดร.มหาเธร์แล้ว นายมูคริซ มหาเธร์ บุตรชายของดร.มหาเธร์ ถูกขับออกจากพรรคเบอร์ซาตูเช่นกัน และยังมีนักการเมืองอีก 3 คนต้องพ้นสถานภาพสมาชิกพร้อมกันด้วย ในฐานะเป็นกลุ่มคนที่ "สมคบคิดกัน" หนึ่งในนั้นคือนายไซอิด ซัดดิค นักการเมืองดาวรุ่งวัย 27 ปี อดีตรมว.กระทรวงเยาวชนและกีฬา

ขณะที่มูห์ยิดดินยังไม่เคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการต่อ "ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ" ภายในพรรคเบอร์ซาตู แต่ดร.มหาเธร์ประณามว่าเป็นการกระทำที่ "ไม่ชอบธรรมอย่างร้ายแรง"
 
อนึ่ง การที่มูห์ยิดดิน วัย 73 ปี อดีตรมว.กระทรวงมหาดไทยในคณะรัฐมนตรีของดร.มหาเธร์ ก้าวขึ้นสู่การเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 8 ของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา จากการแต่งตั้งโดยสมเด็จพระราชาธิบดี หรือราว 1 เดือนหลังการลาออก "อย่างฉับพลัน" ของดร.มหาเธร์ ก่อให้เกิดความตึงเครียดอย่างหนักภายในพรรคเบอร์ซาตู ซึ่งดร.มหาเธร์ประกาศกร้าว ว่าจะล้มมูห์ยิดดินลงจากตำแหน่งให้ได้ แต่มีการวิเคราะห์ด้วยว่า การที่พรรคเบอร์ซาตูขับดร.มหาเธร์ออกจากพรรค สะท้อนฐานอำนาจของมูห์ยิดดิน "ที่ยังไม่มั่นคง".

เครดิตภาพ : REUTERS