ฮ่องกงเตือนสหรัฐลดสัมพันธ์การค้า "เป็นดาบสองคม"

คณะผู้บริหารฮ่องกงเตือนสหรัฐที่ส่งสัญญาณลดความร่วมมือทางการค้า "เป็นดาบสองคม"

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ว่าสำนักงานคณะผู้บริหารฮ่องกงเผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับการที่สหรัฐอาจลดสถานะพิเศษทางการค้าระดับทวิภาคี ซึ่งรวมถึงอัตราภาษีสินค้าหลายชนิดที่รัฐบาลวอชิงตันเรียกเก็บในอัตราต่ำกว่าแผ่นดินใหญ่ เพื่อประท้วงที่จีนเตรียมบัญญัติกฎหมายด้ายความมั่นคงให้มีผลกับฮ่องกงโดยเฉพาะ ว่ามาตรการคว่ำบาตรใดก็ตามที่สหรัฐต้องการบังคับใช้ฝ่ายเดียวกับฮ่องกง ย่อมมีผลกระทบสะท้อนกลับไปยังผู้ที่ออกมาตรการเช่นกัน
 

 
ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ระหว่างปี 2552 ถึง 2561 สหรัฐได้เปรียบดุลการค้าต่อฮ่องกงมากที่สุดในบรรดาทุกประเทศและทุกดินแดนทั่วโลกที่รัฐบาลวอชิงตันค้าขายด้วย โดยมีมูลค่ารวมมากถึง 297,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 9.45 ล้านล้านบาท ) และปัจจุบันมีบริษัทของสหรัฐมากกว่า 1,300 แห่งจดทะเบียนเปิดสาขาอยู่ในฮ่องกง

 
ในเวลาเดียวกัน นายเคร็ก อัลเลน ประธานสมาคมธุรกิจสหรัฐ-จีน กล่าวเรียกร้องให้คู่กรณีทุกฝ่ายลดการสร้างบรรยากาศตึงเครียด เพื่อรักษาความร่วมมืออันดีทางการค้าและธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นการร่วมกันปกป้องหลักการหนึ่งประเทศ สองระบบ ที่สร้างผลประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
 

 
ขณะที่หอการค้าสหรัฐซึ่งถือเป็นล็อบบี้ยิสต์ด้านการค้าที่ทรงอิทธิพลระดับประเทศ ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน ว่าการลดระดับหรือยกเลิกสถานะพิเศษทางการค้าของฮ่องกงตามกฎหมายสหรัฐ "คือความผิดพลาดมหันต์" อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์เช่นกันว่า "สหรัฐเพียงแต่พูด" ในขณะที่จีนยังไม่ได้เผยแพร่ "รายละเอียด" ของกฎหมายความมั่นคงที่รัฐบาลวอชิงตัน "หวั่นเกรง"  ความเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่ายอาจสั่นคลอนตลาดได้ระยะหนึ่ง "แต่ไม่จำเป็นต้องดำเนินการตอนนี้".

เครดิตภาพ : AFP, AP