ไม่เชื่อลมปากทรัมป์!ฝรั่งเศส,อิตาลี,เบลเยียมระงับใช้ยาต้านมาลาเรียรักษาผู้ป่วยโควิด-19

by
https://mpics.mgronline.com/pics/Images/563000005701601.JPEG

รอยเตอร์ - ฝรั่งเศส, อิตาลีและเบลเยียม ดำเนินการระงับใช้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน รักษาคนไข้โควิด-19 อาการป่วยที่มีต้นตอจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ท่ามกลางข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของยาต้านมาลาเรียชนิดนี้ ที่ทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ อวดอ้างว่าสามารถป้องกันโควิด-19ได้

ฝรั่งเศสในวันพุธ(27พ.ค.) ยกเลิกคำสั่งฉบับหนึ่งซึ่งอนุญาตให้คณะแพทย์ของโรงพยาบาลต่างๆจ่ายยาดังกล่าว ในขณะที่องค์การยาอิตาลี(AIFA) ระงับการอนุญาตที่เคยให้ใช้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควินในคนไข้โควิด-19 นอกการทดลองทางคลินิก

เช่นเดียวกับองค์การยาของเบลเยียมก็เตือนเช่นกัน โดยห้ามใช้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน ในการักษาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ยกเว้นแต่ใช้ในการทดลองทางคลินิกที่กำลังดำนินการอยู่

สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันเน้นย้ำให้เห็นถึงความท้าทายที่รัฐบาลต่างๆต้องเผชิญ ในขณะที่พวกเขาดิ้นรนหาแนวทางต่างๆสำหรับรักษาคนไข้โควิด-19 และควบคุมไวรัสที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วกว่า 350,000 คนและติดเชื้อ 5.7 ล้านคน

ความเคลื่อนไหวของทั้ง 3 ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หนักหน่วงทั้งในแง่ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต มีขึ้นหลังจากองค์การอนามัยโลกตัดสินใจเมื่อวันจันทร์(25พ.ค.) ระงับการทดลองใหญ่เกี่ยวกับการใช้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน สืบเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย

การยกเลิกคำสั่งของฝรั่งเศส ซึ่งผลก็คือแบนการใช้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควินรักษาคนไข้โควิด-19 ยืนยันโดยกระทรวงสาธารณสุข แต่ไม่ได้อ้างถึงความเคลื่อนไหวขององค์การอนามัยโลก

เมื่อเดือนมีนาคม ฝรั่งเศสอนุญาตให้ใช้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน ในสถานการณ์พิเศษสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ใช้อำนาจตามมาตรการฉุกเฉิน อนุญาตให้ใช้ยาที่ได้รับการสนับสนุนโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะยาต้านพิษไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ทั้งนี้นอกจากมาลาเรียแล้ว ยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน ยังได้รับอนุญาตให้ใช้รักษาผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเองและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์อีกด้วย

ทรัมป์ เป็นผู้ริเริ่มผลักดันให้ใช้ยาต้านมาเลเรีย ไฮดร็อกซีคลอโรควิน เพื่อป้องกันหรือรักษาโควิด-19 โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประมุขทำเนียบขาวบอกว่า ตัดสินใจกินยานี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังจากได้รับจดหมายสนับสนุนจากแพทย์คนหนึ่งและบุคคลอื่นๆ แม้ผู้เชี่ยวชาญของทำเนียบขาวเตือนว่า ยาดังกล่าวมีความเสี่ยงร้ายแรง และสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) ย้ำว่า ได้รับรายงานที่ระบุว่า ยาไฮดร็อกซีคลอโรควินทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อการทำงานของหัวใจก็ตาม

ประธานาธิบดี จาอีร์ โบลโซนาโร ของบราซิล เจริญรอยตามทรัมป์ ด้วยการสนับสนุนให้ใช้ยานี้รักษาผู้ป่วยโควิด โดยขณะนี้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดอันดับ 2 ของโลกรองจากอเมริกา

วารสารด้านการแพทย์ Lancet ตีพิมพ์รายงานการศึกษาหนึ่ง บ่งชี้ว่าการใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควินในคนไข้โควิด-19 ได้เพิ่มอัตราการเสียชีวิตและภาวะหัวใจเต้นผิดปกติในผู้ป่วยเหล่านั้น พร้อมระบุว่ามีผลลัพธ์จากการใช้ยาที่น่าผิดหวังในหลายๆเคส

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของอิตาลีสรุปว่าจากความเสี่ยงต่างๆ ประกอบกับมีหลักฐานเพียงเล็กน้อยว่าไฮดร็อกซีคลอโรควินมีประโยชน์ในการต้านโควิด-19 จึงสมควรห้ามใช้ยาตัวนี้นอกการทดลองทางคลินิก

ส่วน เยอรมนี บอกว่ากำลังทบทวนผลการศึกษาของ Lancet และการตัดสินใจขององค์การอนามัยโลก แต่ยังไม่ตัดสินใจใดๆในการออกคำแนะนำใหม่เกี่ยวกับยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน