แรงหึงปมฆ่าโหดหม้ายสาว-หนุ่มใหญ่ห่อถุงขยะหมกศพสวนหลังบ้าน
by matichonทำแผนฆ่าโหดหม้ายสาว-หนุ่มใหญ่ห่อถุงขยะหมกศพสวนหลังบ้าน สารภาพเพราะหึงหวง หลังฝ่ายหญิงตีตัวออกห่าง ตั้ง5ข้อหาหนัก
วันที่ 27 พ.ค. ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าโหด น.ส.กมลทิพย์ สบกระสิบ หรือ กุ้ง อายุ 41 ปี และนายเจริญ มณี อายุ 50 ปี ญาติสนิท ก่อนห่อศพด้วยถุงขยะแล้วนำไปทิ้งไว้ที่สวนหลังบ้านเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 40 ตำบลสบเปิง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 23 พฤษภาคม ก่อนที่ญาติจะมาพบศพเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 พฤษภาคม ล่าสุดญาติได้รับศพ น.ส.กมลทิพย์ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านหลังเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ โดยเช้าวันนี้ญาติและชาวบ้าน ได้ช่วยกันเตรียมงานศพ พร้อมนิมนต์พระสงฆ์มาสวดถอนดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุ ภายในบ้านพัก และสวนหลังบ้านที่ทิ้งศพ
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แตง คุมนำตัวนายวสันต์ อินทรจักร์ หรือ ไข่ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ซึ่งถูกจบกุมได้ช่วงค่ำวานนี้ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว เข้ามาทำแผนประกอบคำรับสานภาพที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยมีผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักมาติดตามทำข่าวจำนวนมาก แต่ญาติและชาวบ้านไม่อนุญาตให้เข้าไปทำข่าวภายในบ้าน เนื่องจากไม่พอใจการนำเสนอข่าวของสื่อบางสำนักที่เขียนบิดเบือนพาดพิง น.ส.กมลทิพย์ในทางเสียหาย ทั้งประเด็นเรื่องชู้สาว และการเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด
อย่างไรก็ตามในส่วนการทำแผน เริ่มจากนายไข่ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีอาร์เอฟ สีขาวแดง มาหา น.ส.กมลทิพย์ที่บ้านพัก ช่วงค่ำวันที่ 23 พฤษภาคม จากนั้นเกิดทะเลาะมีปากเสียงกันที่บริเวณโรงรถ นายไข่จึงบันดาลโทสะใช้อาวุธปืน จุด 38 ยิงเข้าที่ท้ายทอยจนเสียชีวิต ก่อนจะนำถุงขยะพลาสติกสีขาวมาห่อศพยกใส่หลังรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีดำเพื่อนำศพไปทิ้ง แต่ไม่สามารถเปิดประตูรีโมทรถได้จึงนำศพไปทิ้งไว้ที่สวนหลังบ้านแทน และนำโทรศัพท์มือถือของ น.ส.กมลทิพย์ แชทไปหานายเจริญเพื่อลวงให้มาหาที่บ้าน โดยใช้เวลาพูดคุยผ่านแชทกันเกือบทั้งคืน กระทั่งนายเจริญหลงกลเดินทางมาหาที่บ้านในช่วงเช้ามืดของวันที่ 24 พฤษภาคม นายไข่ จึงใช้อาวุธปืนยิงนายเจริญเสียชีวิตที่ระเบียงหน้าบ้าน ก่อนห่อศพด้วยถุงขยะสีดำ และลากศพไปทิ้งที่สวนหลังบ้านใกล้กับศพของ น.ส.กมลทิพย์ ก่อนจะหลบหนีกลับไปบ้านพักที่ตำบลแม่หอพระ อำเภอแม่แตง และหลบหนีต่อไปยังสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว
พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุได้หลบหนีไปที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว จึงนำกำลังไปติดตามจับกุมได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ขณะนี้ที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เริ่มคบหากับ น.ส.กมลทิพย์ เมื่อ 1 ปีก่อน แต่พักหลังฝ่ายหญิงทำเหมือนไม่สนใจและพยายามตีตัวออกห่างเพื่อไปคบกับชายอื่น จึงเกิดความหึงหวงและโกรธแค้น โดยหลังฆ่า น.ส.กมลทิพย์แล้ว ก็แชทลวงให้นายเจริญมาหาเพื่อจะฆ่าให้ตายอีกคน ก่อนจะหลบหนีกลับบ้านพักเพื่อเขียนจดหมายลาตาย แบ่งทรัพย์สินให้ลูกๆ และหนีไปที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว เพื่อจะฆ่าตัวตายและภายหลังเปลี่ยนใจเพราะอยากบวชให้พ่อ แต่สุดท้ายถูกตำรวจจับกุมตัวได้เสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้ง 5 ข้อหาหนัก คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือที่สาธารณโดยไม่ได้รับอนุญาต และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ โดยตำรวจจะเร่งสรุปสำนวนและเสนอให้อัยการเพื่อดำเนินการกับผู้ต้องหาต่อไป
สำหรับศพของ น.ส.กมลทิพย์ ญาติจะตั้งบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 1 คืน และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (28 พฤษภาคม) ขณะที่ช่วงบ่ายตำรวจจะนำผู้ต้องหาไปทำแผนที่บ้านพักในตำบลแม่หอพระ ซึ่งผู้ต้องหากลับไปเขียนจดหมายลาตาย และที่สำนักสงฆ์ในอำเภอเชียงดาว