https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2020/05/34-11.jpg

หนุ่มร้องรื้อคดีจยย.ชนรถไถนาจนถูกตัดขา หลังตร.ให้คนชนผิดฝ่ายเดียว

by

พ่อ-แม่ชาวบ้านในตำบลดงมูล อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อขอให้ทำการรื้อคดีอุบัติเหตุลูกชายวัย 17 ปี ขับจักรยานยนต์ชนท้ายรถไถนาพ่วงท้ายในยามวิกาลบนถนนหลวง ได้รับบาดเจ็บสาหัสและทำให้ขาขาดพิการตลอดชีวิตความใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจมืดดับ หลังพบสำนวนคดีของพนักงานสอบสวนให้มีความผิดฝ่ายเดียว

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานกองบังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นายนิคม ภูครองแข็ง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่หมู่ 13 บ้านคำขาม ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางสาวไพลิน รัตนโกสินทร์ อายุ 35 ปี ภรรยา ด.ช.เอ อายุ 11 ปี บุตรชายคนเล็ก จูงแขนและประคองนายศักรินทร์ ภูครองแข็ง อายุ 17 ปี บุตรชายคนโต ซึ่งขาด้านขวาถูกตัดขาดเหนือหัวเข่า การเคลื่อนไหวร่างกายต้องใช้ไม้ค้ำชูและต้องมีคนช่วยพยุงตลอดเวลา ซึ่งทั้ง 4 คนพ่อแม่ลูก ได้ขอเข้าพบ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เพื่อขอความช่วยเหลือและให้มีการรื้อคดีอุบัติเหตุลูกชายคนโตขี่รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถไถ่จนต้องตัดขาทิ้ง แต่กลับถูกดำเนินคดีฝ่ายเดียว และคู่กรณีไม่เคยมาดูแล โดยมี พ.ต.อ.สุธน สีหามาตย์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวนฯ และนายชุติเดช เสน่ห์วงษ์ เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์และฝ่ายนิติกรยุติธรรม เข้าร่วมและให้คำปรึกษาด้วย

นายศักรินทร์ ภูครองแข็ง อายุ 17 ปี กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.30 น.หลังจากที่ตนได้ขับรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน ขยว 428 อุดรธานี กลับจากไปส่งเพื่อนบ้านที่โรงพยาบาลหนองกุงศรีแล้ว ได้เกิดอุบัติเหตุขับรถจยย.คันดังกล่าว ชนเข้ากับกระบะส่วนท้ายพ่วงของรถไถนาเดินตาม บนถนนหลวงสายหนองกุงศรี-ท่าคันโท ซึ่งบริเวณที่ชนนั้นมืดมาก ไม่มีไฟส่องสว่าง โดยเฉพาะรถไถนาคู่กรณี ไม่มีไฟท้ายหรือสัญญาณใดๆเลย จึงทำให้ตนมองไม่เห็นและขับชนท้าย ทั้งๆที่ขับขี่ช้าเพียง 50 กม./ชม.เอง

นายศักรินทร์ กล่าวอีกว่า หลังจากประสบอุบัติเหตุ ตนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขวาขาด ปอด ม้ามและกระเพาะอาหารฉีกขาด โดยกู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลหนองกุงศรี ก่อนถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จากนั้นส่งเข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นทั้งนี้ ตลอดเวลาที่รักษาตัวถึงวันนี้ คู่กรณีไม่ได้มาดูแลเลย ทั้งนี้ ตนเป็นนักศึกษาที่วิทยาลัยการอาชีพหนองกุงศรี และมีความใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจ แต่พอเกิดอุบัติเหตุและขาขาด กลายเป็นผู้พิการตลอดชีวิต จึงทำให้เสียโอกาสนั้นไป โดยไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ สิ่งที่จะขอได้ในตอนนี้คือความเป็นธรรมจากกระบวนการของพนักงานสอบสวน และคู่กรณี

ด้านนางสาวไพลิน รัตนโกสินทร์ มารดานายศักรินทร์ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนพร้อมสามีและลูกมาขอพบพล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ในครั้งนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย และขอให้มีการรื้อคดีใหม่ เนื่องจากไปขอรับการช่วยเหลือด้านการเยียวยาจากสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ แต่พบพิรุธในเอกสารซึ่งเป็นสำนวนของพนักงานสอบสวนสภ.หนองกุงศรี พื้นที่เกิดอุบัติเหตุ โดยในสำนวนระบุว่าบุตรชายตนเป็นผู้ประมาทแต่เพียงฝ่ายเดียว จึงไม่สามารถที่จะได้รับสิทธิและความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมได้ ทั้งนี้ตนและเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรม ได้ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ค่อยจะเป็นธรรมในสำนวนดังกล่าว จึงได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ และขอความเป็นธรรมกับท่านผู้การฯ เพื่อขอให้มีการรื้อคดีใหม่ดังกล่าว

ขณะที่ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังได้รับการร้องเรียนดังกล่าว ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งอยู่ในท้องที่ สภ.หนองกุงศรี ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสรุปข้อเท็จจริง โดยดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม ชัดเจน และตรงไปตรงมา เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ก็ให้เน้นหลักความถูกต้อง เป็นธรรม โปร่งใส ทั้งนี้จะเรียกตรวจสอบสำนวนกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีอย่างละเอียดอีกครั้ง ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย