“ศรีสวัสดิ์” ขูดเลือดลูกค้า / สุนันท์ ศรีจันทรา

by
https://mpics.mgronline.com/pics/Images/563000005677901.JPEG

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ ลงโทษบริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) สั่งปรับเป็นเงิน 3.15 ล้านบาท ในความผิดเรียกเก็บค่าประเมินราคาหลักประกันสูงเกินสมควรและผันแปรตามวงเงินสินเชื่อ โดยไม่ได้พิจารณาถึงต้นทุนที่แท้จริง

ถ้าพูดกับภาษาชาวบ้านคือ การฉวยโอกาส โขกค่าประเมินราคาหลักประกัน เอาเปรียบลูกค้า

และความผิดในลักษณะนี้ของ "ศรีสวัสดิ์" ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ เคยถูกแบงก์ชาติปรับเป็นเงิน 1.65 ล้านบาท ในความผิด ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่แบงก์ชาติกำหนด

บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทลูกของ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 82.04% ของทุนจดทะเบียน

SAWAD ดำเนินธุรกิจสินเชื่อบุคคล โดยเฉพาะสินเชื่อทะเบียนรถเก่า ปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 3,756.49 ล้านบาท และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมาร์จิ้นหรือส่วนต่างกำไรสูงมาก ใกล้เคียงกับมาร์จิ้นของ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ทื่ดำเนินธุรกิจในลักษณะเดียวกัน

กลุ่มแก้วบุตตา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ SAWAD โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อย 8,650 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 43.24% ของทุนจดทะเบียน

ทั้ง SAWAD และ MTC มักถูกโจมตีเรื่องการคิดดอกเบี้ยสูงกับลูกค้า และการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนที่สร้างผลกำไรงามๆ ในแต่ละปี

สินเชื่อบุคคล กฎหมายกำหนดให้คิดดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลได้ไม่เกิน 28% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมาก และแม้ว่า ทั้ง SAWAD และ MTC จะยืนยันว่า ไม่ได้คิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อทะเบียนรถเก่าเต็มเพดาน 28% โดย คิดดอกเบี้ยประมาณ 20-22% แต่ยังเป็นอัตราที่โหดอยู่ดี แม้จะมีกฎหมายรองรับก็ตาม

ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 0.5% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ประมาณ 5.8% ต่อปี แต่สินเชื่อทะเบียนรถเก่าอยู่ที่ประมาณ 20%-22% และยังไม่รวมค่าธรรมเนียมจิปาถะ ยังไม่นับการฉวยโอกาสโขกค่าธรรมเนียมบางรายการ

และค่าธรรมเนียมบางรายการ เป็นไปได้ว่า บริษัทที่ปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเก่าบางแห่ง อาจไม่ลงบัญชีในงบการเงินอย่างถูกต้อง เพื่อหลบเลี่ยงภาษี โดยที่กรมสรรพากรตรวจสอบไม่พบ ขณะที่ผู้ถือหุ้นถูกเบียดบังผลประโยชน์อีกด้วย

การที่บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ บริษัทลูกของ SAWAD ถูกปรับ เป็นการยืนยันว่า การฉวยโอกาสขูดรีดค่าธรรมเนียมลูกค้า ในธุรกิจปล่อยสินเชื่อทะเบียนรถเก่ามีอยู่จริง เพียงแต่แบงก์ชาติจะตรวจสอบพบหรือไม่เท่านั้น

SAWAD และ MTC กำลังแข่งขันกันเปิดสาขา เพื่อครอบคลุมพื้นที่ธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถเก่าให้ทั่วราชอาณาจักร เช่นเดียวกับเปิดร้านสะดวกซื้อ 7-11 โดยแต่ละบริษัทมีสาขามากกว่า 3,000 แห่ง และประกาศแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

ผลกำไรสุทธิของ SAWAD กับ MTC รวมกันปีละเกือบ 10,000 ล้านบาท จนทำให้ผู้บริหารคู่สามีภรรยากลุ่มเพชรอำไพ ผู้ถือหุ้นใหญ่ MTC ติดอันดับมหาเศรษฐีหุ้นลำดับต้นๆ และแม้ว่า กลุ่มแก้วบุตตา จะไม่ติดทำเนียบเศรษฐีหุ้น 10 อันดับแรก แต่ก็รวยอู้ฟู่เหมือนกัน

ขณะที่ผู้กู้หรือลูกค้าสินเชื่อทะเบียนรถของทั้ง 2 บริษัท ต้องแบกภาระดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมกันหลังแอ่น โดยไม่มีหน่วยงานใด ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนคิดจะปลดเปลื้องภาระคนจนที่ต้องพึ่งบริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเก่า และแก้กฎหมาย กำหนดเพดานดอกเบี้ยให้ต่ำลง

SAWAD และ MTC กำลังแข่งขันกันเต็มตัว โดยมี มาร์จิ้นจากธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถเป็นสิ่งล่อใจ มีราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นหลักประกันความสำเร็จ

ถ้าทั้ง 2 บริษัท จะปรับทัศนคติ เปลี่ยนแนวการแข่งขัน ไม่มุ่งแต่การกอบโกยกำไรสูงสุด แต่แข่งกัน คืนกำไรให้สังคม โดยลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลงมา คิดเพียง 15% ต่อปี จะช่วยสร้างบุญให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงสถาบันการเงิน และบริษัทยังสามารถสร้างกำไรงามๆ ได้

แต่ SAWAD และ MTC จะมี ใครคิดคืนกำไรให้สังคม ช่วยแบ่งปันให้ประชาชนที่ด้อยโอกาส บ้างหรือไม่

https://mpics.mgronline.com/pics/Images/563000005677902.JPEG
https://mpics.mgronline.com/pics/Images/563000005677903.JPEG