จับตา กสทช.ลงมติแบ่งสัดส่วนเงินเยียวยาคลื่น 2600
จับตา กสทช.นัดหารือ อสมท เพื่อลงมติการแบ่งสัดส่วนเงินเยียวยาคลื่น 2600 เมกะเฮิร์ตซ วันนี้
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยถึงการพิจารณากรอบวงเงินเยียวยาในการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2600 เมกะเฮิรตซ์ ให้กับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ว่า ตามที่ กสทช. ได้ส่งหนังสือถามถึงสัดส่วนเงินเยียวยาในการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2600 เมกะเฮิรตซ์ ระหว่าง อสมท และบริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด คู่สัญญาในการบริหารเนื้อหาและการตลาด
โครงการโทรทัศน์บอกรับสมาชิกว่าจะเป็นผู้แบ่งเงินเยียวยาเอง หรือจะให้ กสทช. เป็นผู้แบ่งให้นั้น ขณะนี้ ได้รับหนังสือตอบกลับจากอสมท แล้ว เพียงแต่ขอให้ นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ อสมท เข้าชี้แจงด้วยวาจาอีกครั้งในวันนี้ (27 พ.ค.2563)
อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถตอบได้ว่าเรื่องนี้จะยืดเยื้อหรือไม่ แต่โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่า จะมีการลงมติใน 2 แนวทาง ได้แก่ 1.การลงมติเกี่ยวกับกรอบวงเงินเยียวยา และ 2.การลงมติว่าจะแบ่งสัดส่วนเงินเยียวยาให้กับ อสมท หรือไม่ ซึ่งถ้ามีมติว่าไม่แบ่งสัดส่วนเงินเยียวยาก็จะมีหนังสือตอบกลับไป แต่หากมีมติให้แบ่งสัดส่วนเงินเยียวยา ก็จะเป็นไปตามที่ อสมท เสนอคือแบ่งสัดส่วนตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนในการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2500-2690 เมกะเฮิรตซ์ เคยพิจารณา
โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ศึกษาวงเงินเยียวยามา 3 แนวทาง บนพื้นฐานระยะเวลาครองคลื่นความถี่ 15 ปี ประกอบด้วย แนวทางที่ 1 กรณีเลวร้ายที่สุด วงเงินเยียวยาอยู่ที่ 1,573.4 ล้านบาท แนวทางที่ 2 กรณีพื้นฐาน วงเงินเยียวยาอยู่ที่ 3,809.8 ล้านบาท และแนวทางที่ 3 กรณีที่ดีที่สุด วงเงินเยียวยาอยู่ที่ 6,685.1 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตามกฎหมายระบุว่า กสทช. จะแบ่งหรือไม่แบ่งสัดส่วนเงินเยียวยาให้กับ อสมท และคู่สัญญาก็ได้ แต่การพิจารณาต้องคำนึงถึงผู้ที่จะได้รับผลกระทบเป็นหลัก กสทช.จึงได้ส่งหนังสือไปยัง อสมท เพื่อขอความคิดเห็น ซึ่ง อสมท ได้เสนอให้ กสทช. เป็นผู้แบ่งสัดส่วนให้ ดังนั้น จึงต้องเป็นไปตามที่ อสมทเสนอ โดยกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ อสมท จะต้องเข้าชี้แจงเอง เพื่อให้ได้ข้อยุติเรื่องดังกล่าว