‘ธิติสรรค์’ ลับหมัดบนหลังควาย ฝึกทรงตัวเตรียมลุยโอลิมปิก 2020
by matichonธิติสรรค์ ลับหมัดบนหลังควาย ฝึกทรงตัวเตรียมลุยโอลิมปิก 2020
แม้ว่าการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นจะถูกเลื่อนออกไปจัดระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม 2021 เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่นักกีฬาทุกชาติยังคงฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อรอมหกรรมระดับโลกกลับมา ท่ามกลางกฏหมายห้ามทำกิจกรรมร่วมกันของรัฐบาล ทำให้นักกีฬาต้องฝึกซ้อมด้วยตนเองที่บ้าน เพื่อเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น
หนึ่งในกีฬาที่สร้างความสุขให้คนไทยมาหลายยุคหลายสมัยอย่างมวยสากลสมัครเล่น ปีนี้น่าจับตามองเพราะมีชื่อของ “เจ้าเหลิม” ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ที่เป็นม้ามืด เอาชนะ ชาห์โคบิดิน ซอยรอฟ จากอุซเบกิสถาน อดีตเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก2016 กับ แชมป์โลก 2019 ในรอบคัดเลือกโอลิมปิก 2020 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชะเลิศพร้อมคว้าตั๋วโตเกียวเกมส์มาครอง เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โดย “เจ้าเหลิม” ได้ฝึกซ้อมอยู่บ้านที่ อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ซึ่งทำฟาร์มควายขุน ทำให้เกิดไอเดียฝึกซ้อมบนหลังควาย เพื่อฝึกการทรงตัว ซึ่งธิติสรรค์เล่าว่า “การซ้อมบนหลังควายเป็นความคิดของพี่สาว ซึ่งช่วยในเรื่องการทรงตัวได้จริงๆ เพราะได้ฝึกกล้ามเนื้อขาไปในตัว เมื่อว่างจากการซ้อมมวยผมก็จะช่วยดูแลควายในฟาร์ม บางครั้งต้องออกแรงจูงควาย ก็ช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้เราด้วย”
นอกจากนี้ ธิติสรรค์ ยังกล่าวถึงเป้าหมายของตนเอง ในการลุยโอลิมปิก 2020 ว่า “ผมตั้งเป้าคว้าเหรียญทองเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะแข่งเพื่ออะไร ช่วงที่ผมคว้าตั๋วโอลิมปิก ก็มีไวรัสโควิดพอดี ทำให้ข่าวค่อนข้างเงียบ จึงอยากคว้าชัยชนะให้ได้เพื่อให้ทุกคนภูมิใจในตัวผม โดยสิ้นเดือนนี้จะกลับไปฝึกซ้อมกับสมาคมฯ ผมจะตั้งใจเต็มที่เพื่อทำเป้าหมายให้สำเร็จ”
สำหรับผลงานของกำปั้นหนุ่มจากพิจิตร ในการรับใช้ทีมชาติไทย ประกอบด้วย เหรียญทองแดง ชิงแชมป์เอเชีย ปี 2560, เหรียญทอง ชิงอาเซียน ปี 2560, เหรียญเงิน International Boxing ที่ประเทศสเปน ปี 2560, เหรียญทอง International Boxing Tournament Julius Torma Memorial ที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ปี 2560, เหรียญเงิน ชิงแชมป์เอเชีย ปี 2561, เหรียญทอง ชิงแชมป์โลก ปี 2561 ที่ประเทศฮังการี, เหรียญทองมวยสากลอินเตอร์เนชั่นแนลรายการ “จีบี เทอร์นาส เฮลซิงกิ” อินเตอร์เนชั่นแนล บ๊อกซิ่ง ทัวร์นาเม้น ครั้งที่ 38 ที่ประเทศฟินแลนด์ ปี 2561, เหรียญทอง ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ปี 2562 และ เหรียญเงิน คัดเลือกโอลิมปิก2020 “โซนเอเชีย-โอเชียเนีย” ปี 2563