สำนึกรักบ้านเกิด..เทิดทูนราชวงศ์จักรี
แหล่งโบราณสถานคล้ายวิหารเก่าที่ตอนนี้เหลือแต่ซาก ที่กรมศิลปากรเขต 2 เคยไปสำรวจแล้วคาดการณ์ว่าเป็นแหล่งโบราณสถานเป็นปราสาทอยู่ในห้วงเวลายุคเดียวกันกับ “ปราสาทเมืองสิงห์”
ที่บ้านเกิดอำเภอไทรโยค กาญจนบุรี มีแหล่งโบราณสถานอันเป็นประวัติศาสตร์อยู่ 2 -3 แห่งที่คุณค่าแก่ความจำ
เคยประสานกับหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง..ไปดู-ไปสำรวจ กลับมาเรื่องก็เงียบ ทั้ง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ราชวงศ์จักรี
เรื่องนี้เคยยื่นขอความช่วยเหลืออดีตรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม คุณวีระ โรจน์พจนรัตน์ ยืนเสร็จท่านส่ง นายวิเศษ เพชรประดับ อดีตผอ.ศิลปากรเขต 2 ไปสำรวจแล้วทำรายงานขึ้นมา “เงียบ” เรื่องนี้เคยยื่นจดหมายขอความช่วยเหลือจากอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร เธอรับปากว่า “พี่น้องจะดูแลให้” สุดท้ายเงียบยิ่งกว่า
เรื่องนี้เคยขอความช่วยเหลือจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับนโยบายและปฎิบัติการในพื้นที่ ไปคุยที่สภาสุดท้าย “เงียบยิ่งกว่าป่าช้า”
เรื่องนี้เคยพาหน่วยงานในพื้นที่ทั้งตัวแทนอำเภอและเทศบาลไทรโยค “เสียเวลาเปล่า”
ขอตั้งไข่ใหม่
เมื่อต้นปีก่อนที่จะมีการประชุม ครม.สัญจรกาญจนบุรี ได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงวัฒนธรรม คุณกฤษศญพงษ์ ศิริ ว่าขอความอนุเคราะห์เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม ไปสำรวจอีกครั้ง เหตุผล เพราะมีแหล่งโบราณสถานคล้ายวิหารเก่าที่ตอนนี้เหลือแต่ซาก ที่กรมศิลปากรเขต 2 เคยไปสำรวจแล้วคาดการณ์ว่าเป็นแหล่งโบราณสถานเป็นปราสาทอยู่ในห้วงเวลายุคเดียวกันกับ “ปราสาทเมืองสิงห์”
พระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่รัชกาลที่ 1 เป็นต้นมาเคยเสด็จผ่านสถานที่ตรงนี้หลายพระองค์ ที่ชัดเจนที่สุดองค์รัชกาลที่ 5 ตอนประพาสต้นน้ำตกไทรโยค เคยตั้งพลับพลา ตรงท่าน้ำวัดแม่น้ำน้อย โดยมีเอกสารยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเชนในพระราชนิพนธ์เสด็จประพาศไทรโยค
มีถ้ำที่องค์ราชกาลที่ 5 เคยเสด็จขึ้นไปชม มีพระพุทธรูปเก่า ๆ คราวที่กรมศิลปากรไปสำรวจ จึงนำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ปราสาทเมืองสิงห์ ถ้ำนี้เรียกว่า “ถ้ำพระธาตุลอย” เพราะตรงกลางถ้ำ หากมองขึ้นไปบนเพดานถ้ำมีจุดเล็ก ๆ มองทะลุไปบนฟ้ามีแสงเข้ามาได้เหมือนจึงเรียกว่า “ถ้ำพระธาตุลอย”
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จไปเยี่ยมโรงเรียน ต.ช.ด.แม่น้ำน้อย อย่างน้อย 4 ครั้ง เฉลี่ย 4 ปี 1 ครั้ง เป็นเรื่องที่ชาวประชาแถบนั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็น “คนไทยใหม่” ยกย่องและนับถือ
สุดท้าย ปลัดท่านก็รับปากว่า ยินดีช่วย เพราะเป็นภารกิจของกระทรวงวัฒนธรรมโดยตรงในการรักษาอนุรักษ์แหล่งโบราณสถานและเทิดทูนราชวงศ์จักรี จึงให้ทีมงานประสานกับ คุณจริญญา จักรกาย ผอ.วัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเลื่องลือว่า “ทำงานถึงลูกถึงคน”
เสียดาย.. ตอนประชุมครม.สัญจรวาระเรื่องนี้กระทรวงวัฒนธรรมทำไม่ทัน..ความผิดคราวนี้อยู่ที่ผม เพราะติดภารกิจยาวมาจนถึงบัดนี้ จึงขอโอกาสรื้อฟื้นใหม่
วันศุกร์นี้จะพาคนของกระทรวงวัฒนธรรมเดินทางไปสำรวจอีกครั้ง..หวังว่าคงไม่แห้วเหมือนที่ผ่านมา!!!
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย “เปรียญ10” : riwpaalueng@gmail.com.