วิจัยพบไวรัสโรค “โควิด-19” ใน “น้ำนมแม่” แพทย์แนะเลี่ยงเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หากแม่ป่วย
by Jurairat N.ทีมวิจัยในเยอรมันพบเชื้อไวรัสในน้ำนมแม่ที่ป่วย และลูกที่ดื่มน้ำนมแม่ติดเชื้อด้วย แต่ยังไม่ยืนยันว่าติดเชื้อจากแม่ผ่านน้ำนมแม่ หรือทางอื่น แพทย์แนะเลี่ยงเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่หากแม่ป่วย
ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มีงานวิจัยเพิ่มเติมว่าคุณแม่ที่ป่วยโรคโควิด-19 ในน้ำนมแม่จะมีเชื้อไวรัสที่ส่งต่อไปถึงลูกน้อยที่ดื่มนมแม่เป็นอาหารหลักได้หรือไม่ WHO จึงยังแนะนำให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ แต่งานวิจัยทางเยอรมันล่าสุดพบเชื้อไวรัสในน้ำนมแม่ที่ป่วยแล้ว
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุไว้ในเฟซบุ๊กว่า ทีมวิจัยจากประเทศเยอรมันเพิ่งตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ระดับโลก The Lancet ฉบับ 21 พฤษภาคม 2563 รายงานการตรวจหาไวรัสโรคโควิด-19 ในมารดา 2 คน ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 เพิ่งคลอดและเลี้ยงลูกด้วยน้ำนม
ผลการตรวจด้วยวิธี RT-PCR พบว่า มีมารดา 1 คนที่ตรวจพบไวรัสในน้ำนม ในช่วงที่มีอาการโรคโควิด-19 อยู่ประมาณ 9 วัน ทั้งนี้สามารถตรวจพบถึง 3 วัน
ทีมวิจัยคาดประมาณว่ามีไวรัสอยู่ในน้ำนมประมาณ 94,800-132,000 ตัวต่อซีซี และพบว่าลูกของมารดาคนนี้ก็ติดเชื้อ แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าติดจากน้ำนมที่กิน หรือจากทางอื่นๆ
งานวิจัยนี้ตอกย้ำให้มีความระแวดระวัง และยังต้องการการวิจัยในกลุ่มประชากรจำนวนมากกว่านี้เพื่อนำไปสู่การสรุปแนวทางหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการให้นมลูกของมารดาที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 ต่อไป
แต่ในยุคนี้ที่เรายังไม่มียามาตรฐานและวัคซีนป้องกัน ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์และมีอาการคล้ายไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ หรือมีอาการอื่นๆ ที่น่าสงสัยว่าจะเป็นโรคโควิด-19 เช่น ตาแดง ดมแล้วไม่ได้กลิ่น กินอาหารไม่ได้รสชาติ เป็นต้น น่าจะไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองให้ดีว่าติดเชื้อหรือไม่ จะได้วางแผนในการดูแลรักษาและป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ