โจรซุ่มซ่ามชิงทอง กระจกบาดทิ้งรอยเลือดให้ตำรวจตาม สุดท้ายจนมุมคาโรงพยาบาล
โจรซุ่มซ่ามชิงทอง 4 บาท พลาดกระจกบาดเอ็นขาดเลือดหยดไปตามทาง สุดท้ายจนมุมคาโรงพยาบาล
เหตุการณ์คนร้ายบุกเดี่ยวเข้าก่อเหตุชิงทองรูปพรรณกลางเมืองนครศรีธรรมราช รายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายก่อเหตุบุกเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณในห้างทองศรีอุดมถนนกะโรม ตำบลคลัง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งด้านหลังของร้านติดกับรั้วกองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช โดยคนร้ายได้ทองคำรูปพรรณไปจำนวน 2 เส้นน้ำหนักเส้นละ 2 บาท รวม 4 บาทมูลค่าซื้อขายตามราคาทองคำวันนี้สูงกว่า 1 แสนบาท โดยคนร้านได้พังประตูล๊อตอัตโนมัติแล้ววิ่งหลบหนีไปได้อย่างลอยนวล
โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าเป็นห้างทองศรีอุดม ที่มีเจ้าของคือ นายชาญวิทย์ ยังอยู่ในสภาพตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประตูกระจกหน้าร้านยังแตกกระจากนายชาญวิทย์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนที่กองเศษกระจกประตูพบรอยเลือดกระจายหลายจุดพบว่าเป็นรอยเลือดของคนร้ายที่ถูกกระจกบาดข้อมือขวาเป็นแผลฉกรรจ์ ขณะที่ทำลายประตูแล้ววิ่งหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเส้นทางหลบหนีพบว่าหลังจากก่อเหตุคนร้ายได้พังประตูหลบหนีโดยวิ่งไปตัดถนนผ่านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช โดยตลอดทางมีรอยเลือดของคนร้ายหยดไปตลอดทางพบว่าคนร้ายน่าจะมีแผลฉกรรจ์ที่แขนขวา ก่อนจะไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดซุ่มอยู่ในซอยขุนพันธรักษ์ราชเดชก่อนที่จะขับหลบหนีไปตามถนนศรีธรรมโศก ตัดออกพัฒนาการคูขวางแล้วมุ่งหน้าไปยังเขตท้องที่ สภ.ชะเมา ซึ่งมีพื้นที่ติดกัน
นายชาญวิทย์ บางโชคดี เจ้าของร้านแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้เข้ามาทำทีขอดูทองน้ำหนักทองเส้นละ 2 บาท โดยได้ส่งให้ทดลองสวมจำนวน 1 เส้นและขอดูอีกเส้นจังหวะนั้นเองคนร้ายได้ชิงทองทั้งสองเส้นแล้ววิ่งหลบหนีไปกระแทกประตูอัตโนมัติจนพังแตกแล้ววิ่งหนีหายเมื่อตั้งสติได้จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่พยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่าได้ยินเสียงกระจกแตกแล้วเห็นวัยรุ่นวิ่งมาเลือดไหลออกมาหลังจากนั้นเจ้าของร้านได้วิ่งตามมาแล้วแจ้ง 191 คนร้ายเป็นผู้ชายวัยรุ่นสูงโปร่งอายุราว 40 กว่า ที่คอมีสร้อย 1 เส้น มือขวากำอยู่ได้รับบาดเจ็บไปด้วยอย่างแน่นอน
ต่อมาในเวลา 15.00 น.มีรายงานว่าพันตำรวจเอกดุษฎี หิรัญรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ และ พันตำรวจโทสนั่น มณีฉาย รอง ผกก.ป.สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้เข้าตรวจสอบที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี และรับแจ้งว่าคนร้ายอาจเข้ารักษาตัวพบว่ามีชายฉกรรจ์ทราบชื่อคือ นายสมนึก อายุ 35 ปี เข้ารักษาตัวในสภาพข้อมือขวาถูกของมีคมบาดเป็นแผลฉกรรจ์ โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินว่าได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับหน้าซีดเผือด ยอมรับว่าได้ผลัดเปลี่ยนชุดที่ใช้ก่อเหตุทิ้งแล้วขับรถต่อมารักษาตัวเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อนามัยบ้านสระเพลง แต่ได้รับแจ้งว่าเอ็นขาดจึงต้องมายัง รพ. ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุนั้นเพราะต้องการหาเงินไปใช้หนี้ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไว้ได้