https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2020/05/24-11.jpg

ฝ่ายค้าน พร้อมยกมือให้พ.ร.ก.กู้เงิน แค่รบ.รับปาก ตั้งกมธ.ตรวจสอบ-รายงานใช้งบ

by

“ฝ่ายค้าน” ขอรบ.ให้คำมั่นสัญญาต่อสภาว่าจะตั้ง กมธ.ขึ้นมาตรวจสอบการใช้เงินกู้ พร้อมรายงานการใช้เงินทุกเดือน วอนสื่อจับตาองค์ประชุม บอก ถ้าเปิดได้ช้า ก็ต้องเลื่อนปิดให้ช้าตามด้วย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 พ.ค. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองประธานวิปฝ่ายค้าน และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมแถลงผลการประชุมวิปฝ่ายค้าน โดยนายสุทิน ระบุว่า วันนี้เป็นการหารือแรกในการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญที่ 2 เรื่องใหญ่ที่สุดที่หารือในวันนี้คือการ ตกลงและพูดคุยกันถึงรูปแบบการประขุม ซึ่งได้ข้อสรุปว่า จะเป็นการแยกพิจารณาพรก.แต่ละฉบับ โดยอภิปรายจะขึ้นอภิปรายทีละฉบับ แต่หากจำเป็นต้องโยงไปถึงฉบับอื่นก็สามารถทำได้เท่าที่จำเป็น เพราะพยายามจะไม่ให้มีการประท้วงกันทั้ง 2 ฝ่าย และเพื่อให้การอภิปรายสมบูรณ์ ส่วนการวางตัวบุคคลนั้น เราจะอภิปรายร่วมกันทั้ง 6 พรรค ซึ่งทุกพรรคได้แสดงความจำนงที่จะอภิปรายทุกพรรค ตามลำดับ โดยแบ่งสัดส่วนเวลาตามที่เคยปฏิบัติมา พรรคใหญ่จะได้มากและพรรคเล็กจะได้ตามลำดับรองลงมา จำนวนคนเบื้องต้นทุกพรรครวมกันวันนี้ทั้งหมด 60-65 คน เพื่อไทย พรรคเดียวประมาณ 35 คน ก้าวไกลประมาณ 15 คน แต่ถึงเวลาจริงอาจมีการปรับอีกบางส่วน

ด้าน นายพิจารณ์ กล่าวว่า เราจัดสรรเวลาอย่างรัดกุมขึ้นเพื่อให้สัดส่วนของเวลาเป็นไปตามจำนวนส.ส.ของแต่ละพรรค โดยการอภิปราย 3 วันแรกจะเราเน้นไปที่พรก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท เราแบ่งเวลาอย่างละเอียด ซึ่งวันแรกจะใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง ตัดเวลาของการปรึกษาหารือออกไป 1 ชั่วโมงและตัดเวลาขอประธานอีก 1 ชั่วโมงจะเหลือประมาณ 8 ชั่วโมง วันที่ 2 และ 3 ก็เช่นเดียวกัน ส่วนวันที่สี่จะเป็นการอภิปรายพ.ร.ก.ซอฟต์โลนกู้เงิน 5 แสนล้าน และวันสุดท้ายจะเป็นการพิจารณา พ.ร.ก.ตราสารหนี้ ซึ่งจะจบในเวลา 15.00 น. และจะลงมติกันทั้ง 3 ฉบับ แบบทีละฉบับต่อกัน จากนั้นจึงเข้าสู่การพิจารณาประชุมออนไลน์ โดยทั้งหมดจะบริหารให้จบภายใน 20.00 น. ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านได้บริหารร่วมกันเป็นอย่างดี

ขณะที่นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เนื่องจากการประชุมครั้งนี้มีข้อจำกัดเรื่องเคอร์ฟิว จึงจะปิดประชุมเวลา 20.00 น.ทุกวัน ซึ่งจะต้องมีการนัดประชุมในวันต่อไปด้วย ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือองค์ประชุม ในเวลา 9.30 น.ที่นัดหมายไว้ ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลต้องมาร่วมเป็นองค์ประชุม ฝากพี่น้องสื่อมวลชนร่วมกันติดตามประเด็นนี้ด้วย เพราะเราต้องการแสวงหาความร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย โดยจะร่วมกันพิจารณาแต่แยกกันลงมติ

เมื่อถามว่า ยังจะมีการเรียกร้องให้มีการตั้งกรรมาธิการเงาขึ้นมาตรวบสอบการใช้เงิน กับให้มีการรายงานสภาทุกๆ หนึ่งเดือนหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ยังคงเรียกร้อง เพราเป็นเงินจำนวนมากและไม่มีรายละเอียด ดังนั้นเราถ้าจะผ่านพ.ร.ก.เราจึงต้องมีเงื่อนไข เราจึงจะขอให้รัฐบาลรับปากสภาได้หรือไม่ว่าให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อตรวจสอบและติดตามการใช้เงินกู้เหล่านี้ ถ้ารบ.รับที่จะตั้ง ไม่แน่ว่าเราอาจจะให้ผ่าน เงื่อนไขต่อมาคือ ถ้ารบ.รับปากได้ว่าจะรายงานการใช้เงินจำนวนนี้ต่อสภาในเวลาที่เหมาะสม เดือนละครั้ง เมื่อรับปากได้ดังนี้จึงจะให้ผ่าน เพราะถ้าจะให้ผ่านเราจะให้ผ่านแบบไม่มีเงื่อนไข เพราะหากคุณให้คำมั่นสัญญาต่อสภาจะทำให้เรารู้สึกว่าได้รับหลักประกันในระดับหนึ่ง เพราะวันนี้ไม่มีรายละเอียดเป็นรูปเล่ม และไม่มีหลักประกันก็จนใจที่เราจะรับได้

https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2020/05/20-13.jpg

เมื่อถามว่า ช่องทางการยื่นศาลรัฐธรรมนูญเป็นแนวทางหนึ่งของฝ่ายค้านหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า วันนี้จะดูการประชุมไปก่อน ถ้ารัฐบาลตอบคำถามต่อสภาแบบไม่มีรายละเอียดหรือยังเกิดความคลางแคลงไม่ชัดเจน แน่นอนว่าต้องไปถึงการตีความโดยศาล แต่วันนี้ไม่อยากทำอย่างนั้น แต่ถ้าจำเป็นเพราะรบ.ไม่ยอมตอบ หรือตอบไม่เคลียร์ จะปล่อยให้คลุมเครือสุ่มเสี่ยงหรือหมิ่นเหม่ต่อข้อกฎหมายไม่ได้ เป็นหน้าที่ของเราที่จะยื่นให้ศาลตีความ

เมื่อถามย้ำว่าการบริหารเวลาจะให้ความมั่นใจได้ไหมว่าส.ส.พรรคก้าวไกลจะได้อธิบายให้ครบทุกคนไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา นายสุทินกล่าวว่า คราวนี้เราได้เอาบทเรียนมาปรับปรุงแก้ไข โดยใช้ระบบการจัดสรรที่เป็นวิทยาศาสตร์ และมีระบบทำงานร่วมกันที่ดีขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นปัญหาเดิมจะไม่เกิด อย่างไรก็ตาม การประชุมสภาเป็นเรื่องที่ต้องเผชิญเหตุเพราะปัจจัยที่เข้ามามีหลายเรื่อง แต่เราจะพยายามให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด

ขณะที่นายพิจารณ์ กล่าวว่า การทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันนี้จะไม่มีปัญหาแต่กังวลว่าปัญหาจะเกิดจากเวลาการประชุมสภา ถ้าองค์ประชุมไม่ครบเสียที จะทำให้การจัดสรรเวลาคลาดเคลื่อน ซึ่งฝ่ายค้านยืนยันว่าจะมาร่วมองค์ประชุมทันเวลาแน่นอน แต่ที่ต้องจับตาดูคือฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล

โดยนายสุทิน กล่าวเสริมว่า รัฐบาลต้องมาประชุมให้พร้อม ถ้าเกิดว่าไม่พร้อมแล้วเกิดการดีเลย์ไป การปิดก็จะต้องดีเลย์ด้วย เช่น หากเริ่มประชุมได้ 11.00 โมง ก็ต้องปิดประชุมไป 22.00 น. สิ่งนี้คือการเตรียมการป้องกันของฝ่ายค้าน

https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2020/05/21-7.jpg