ปตท.ปรับแผนส่งสคร.หั่นงบลงทุน

ปตท.ปรับแผนส่งสคร. หั่นงบลงทุน – ค่าใช้จ่าย รับปีนี้ส่งเงินรัฐน้อยลงแน่ หลังโควิด-19กระทบ    

นางอรวดี โพธิสาโร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า ปตท.ได้ทำแผนรัฐวิสาหกิจใหม่ทั้งแผนการลงทุนการประเมินผลดำเนินการ เสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้การดำเนินงานเปลี่ยนแปลงไป โดยจัดทำบนสมมุติฐานทั้งแบบเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวจากคุมการระบาดโควิด -19 ได้เร็วสุดประมาณเดือนก.ค.เป็นต้นไป และกรณีเลวร้ายสุดการควบคุมการระบาดจะอยู่ในต้นปี 64

ทั้งนี้ปตท.มองสมมุติฐานโลกฟื้นตัวได้เร็ว มีแนวโน้มเป็นไปได้จากกระแสข่าวการค้นพบวัคซีนและการคลายล็อกดาวน์หลายประเทศทั่วโลกส่งผลให้การใช้น้ำมัน ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขยับขึ้น เป็นผลดีต่อกลุ่มปตท. โดยแผนนี้ปตท.ได้ควบคุมค่าใช้จ่ายตัดลดงบที่ไม่จำเป็นออกไปก่อนหนึ่งในมาตรการ เช่น ลด-ละ-เลื่อน ลดงบลงทุนในปีนี้ได้ประมาณ 10-15% หลังจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/63 ขาดทุนสุทธิ 1,554ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการขาดทุนสตอกราคาน้ำมันดิบ คิดเป็นส่วนของปตท. 35,000  ล้านบาท และมองว่า ผลดำเนินการทั้งปี 63จะเป็นบวก เพราะประเมินว่าการขาดทุนสตอกผ่านช่วงเวลาขาดทุนสูงสุดไปแล้วในไตรมาส1/63

“ปตท.เตรียมส่งแผนการดำเนินงานใหม่ให้สคร. ตามแผนที่ให้ทุกรัฐวิสาหกิจส่งแผนงานใหม่ หลังจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ปีนี้คาดว่า จะส่งเงินให้รัฐน้อยกว่าปีที่ผ่านมาเพราะไตรมาส 1/63 ขาดทุน และยอดขายผลดำเนินงานขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจทั้งโลกขณะที่เศรษฐกิจไทยหดตัว ปตท.ก็ทำแผนอิงการฟื้นตัวเร็ว เจอวัคซีนเร็ว แต่หากฟื้นตัวช้าไปจนถึงต้นปีหน้าเราก็ทบทวนใหม่ในการประชุมกลุ่มทุกกลางปี เพื่อปรับแผนประเมินทิศทางการลงทุนทุก 5ปีข้างหน้า"

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า  ปีงบประมาณ  62  (ต.ค.61-ก.ย.62)รัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงพลังงาน ทำรายได้แก่รัฐ รวมเป็นเงินกว่า 48,000 ล้านบาท โดยปตท.นำส่งเป็นอันดับ 2 วงเงิน 29,198ล้านบาท ส่วนอันดับ 3 คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตหรือกฟผ. นำส่งรายได้ 18,924 ล้านบาท