หนุ่มขายมือถือถูกอายัดบัญชีกรุงศรีฯ เหตุนักธุรกิจหนุ่มแจ้งความ รู้ความจริงฝีมือน้องชายแฮก-ติดหนี้พนัน

by
https://mpics.mgronline.com/pics/Images/563000005584601.JPEG

ผู้เสียหายถูกนักธุรกิจหนุ่มประจานมาอีกราย เป็นคนขายของออนไลน์และมือถือ ถูกอายัดบัญชีกรุงศรีฯ ที่รับเงินโอนค่าสินค้าเข้ามา ระบุเพื่อนน้องชายนักธุรกิจหนุ่มติดต่อผ่านหุ้นส่วนขอซื้อโทรศัพท์มือถือ และไปรับสินค้าที่เกาหลี ก็ซื้อขายกันปกติ ภายหลังบัญชีถูกอายัด หลังเกิดเรื่องเจ้าตัวขอโทษ อ้างน้องชายอยู่เบื้องหลัง เพราะติดหนี้การพนัน ก่อนปิดเฟซบุ๊กหนี

วันนี้ (25 พ.ค.) จากกรณีที่ นายกษิดิศ วิเศษธนากร อายุ 31 ปี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Kasidit Kwang Visetthanakorn ระบุว่า ถูกคนร้ายร่วมกันแฮกบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ผ่านทางกรุงศรีออนไลน์ (KOL) และ กรุงศรี บิซ โมบาย แอปพลิเคชัน (KBOLAPP) รวมมูลค่าความเสียหาย 395,000 บาท หลังกลับจากเข้าพักที่โรงแรมเรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แล้วมีตัวแทนนำโทรศัพท์มือถือออปโป้ (OPPO) มามอบให้ที่บ้านด้วยตัวเอง แต่อ้างว่าต้องมีการยืนยันแคมเปญ (Activate Campaign) โดยนำซิมการ์ดมาใส่เครื่องมือถือที่มอบให้ ปรากฏว่า พบกล่องข้อความ SMS ถูกนำไปซ่อนไว้ในเมนูหน้า 2 ปิดเสียงการแจ้งเตือน (Notification) และถูกย่อแฟ้ม (Minimize Folder) เพื่อไม่ให้สังเกตเห็น SMS OTP จากทางธนาคาร โดยพบว่าได้โอนเงินไปยังบัญชีปลายทาง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก ภายหลังนายกษิดิศโพสต์ข้อความระบุว่า คนที่ขโมยเงินในบัญชีไปคือคนในครอบครัว แต่ตนโง่เองเที่ยวไปประกาศทั่วราชอาณาจักรว่าผมโดนแฮก โดนมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไป ประจานคนนั้นคนนี้ ขณะที่ นายนิวัตร เหลืองศิริเชียร พิธีกรอิสระ ที่ได้รับว่าจ้างจากลูกค้าให้นำโทรศัพท์มือถือออปโป้มามอบให้นายกษิดิศ ระบุว่า เรื่องนี้ทำให้หน้าที่การงานพัง ชื่อเสียงที่สร้างมาหายไปในพริบตา แต่วันนี้ความจริงปรากฏแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง เตรียมแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.เตาปูน

อ่านประกอบ : โอละพ่อ! ที่แท้คนในครอบครัวขโมยเงินในบัญชีกรุงศรีฯ พิธีกรอิสระครวญอนาคตพังจ่อฟ้องกลับ

ล่าสุด เจ้าของบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก ซึ่งกลายเป็นผู้เสียหายจากการถูกนายกษิดิศประจานอีกราย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว MGR Online ระบุว่า ตนมีอาชีพขายของออนไลน์ และขายโทรศัพท์มือถือ โดยเป็นหุ้นส่วนร่วมกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ เพื่อนของนายเกา น้องชายนายกษิดิศ ได้ติดต่อมาทางเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วน ขอซื้อสินค้าเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 390,000 บาท เมื่อคุยรายละเอียดว่ามารับของที่ไหน อย่างไร ซึ่งบริษัทของเพื่อนตนมีบูธที่ประเทศเกาหลีใต้ ตกลงแล้วคนซื้อจะไปรับสินค้าที่ประเทศเกาหลีใต้เอง เพื่อนถามว่าถ้าโทรศัพท์มีปัญหา สามารถติดต่อใคร ก็เลยบอกว่าให้ติดต่อนายเกา เมื่อสืบว่านายเกาคือใคร สุดท้ายนายเกาคือน้องชายของนายกษิดิศ เมื่อลูกค้าโอนเงินค่าโทรศัพท์มือถือเข้ามาแล้ว ลูกค้าขอโลเกชัน (Location) เพื่อไปรับสินค้าที่ประเทศเกาหลี จึงส่งไปแล้วทำการรับของเรียบร้อย และที่ใช้บัญชีของตนรับเงินโอนเพื่อต้องการเดินบัญชีเพื่อกู้เงินเอสเอ็มอี

เรื่องนี้ตนไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย แต่ได้รับความเสียหายจากการถูกธนาคารกรุงศรีอยุธยาอายัดบัญชี เนื่องจากนายกษิดิศได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.หัวหมาก แล้วทาง สน.หัวหมาก ประสานให้ธนาคารอายัดบัญชี ทำให้ไม่สามารถกดเงินจากลูกค้าเพื่อไปซื้อของได้ เมื่อสอบถามไปยังสำนักงานใหญ่ก็ระบุว่า บัญชีถูกอายัดโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทีแรกทางธนาคารไม่ยอมเปิดเผยว่าใครเป็นคนสั่งอายัดบัญชี สุดท้ายผู้จัดการของธนาคารจึงยอมบอกข้อมูลว่าเป็น สน.หัวหมาก กระทั่งได้พบกับนายกษิดิศ ซึ่งเป็นคนแจ้งความ ซึ่งตนมีเอกสารหลักฐานการติดต่อขอซื้อโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะทักเข้ามาที่เพื่อนของตน

เมื่อเช้านี้นายกษิดิศส่งข้อความมาทางแชตบอกว่า “รู้คำตอบจริงๆ แล้ว น้องชายผมเองครับ ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด เขาติดหนี้การพนัน ขอโทษด้วยที่รบกวนครับ” ซึ่งตนได้เห็นเขาโพสต์ขอโทษไปยังนายนิวัตรซึ่งเป็นพิธีกรด้วย และฝากขอโทษมา เมื่อทักแชตไปบอกว่า รบกวนช่วยไปถอนอายัดบัญชีผมด้วย พอดีผมจะทำธุรกรรม เงินลูกค้าอยู่ในบัญชีผม อยู่ๆ ก็ปิดเฟซบุ๊กไปเลย อีกทั้งเพื่อนให้ดูข่าวพบว่ามีชื่อตนถูกประจานทำให้ตนเดือดร้อน ซึ่งขณะนี้เตรียมที่จะแจ้งความกับตำรวจที่จังหวัดลำปาง พร้อมกับปรึกษานายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความเพื่อขอความช่วยเหลือในทางคดี เนื่องจากนายกษิดิศประจาน อี-สลิป ที่มีชื่อตนในการทำรายการ และนายนิวัตรเตรียมแจ้งความเนื่องจากทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเช่นกัน