ผู้นำอิสราเอลเผชิญหน้าศาล คนแรก-สู้คดีคอร์รัปชั่น

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เป็นผู้นำรัฐบาลคนแรกในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล ที่ถูกฟ้องคดีอาญาและขึ้นศาลด้วยตัวเองระหว่างอยู่ในตำแหน่ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ว่านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เดินทางมายังศาลแขวงนครเยรูซาเลม เมื่อวันอาทิตย์ เพื่อรายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนตามการนัดหมายครั้งแรก ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ฟ้องผู้นำอิสราเอล วัย 70 ปี รวม 3 ข้อหา คือให้และรับสินบน ฉ้อโกง และละเมิดอำนาจ
 
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เนทันยาฮูซึ่งถือเป็นผู้นำรัฐบาลยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของอิสราเอล แม้วาระไม่ต่อเนื่องก็ตาม  สร้างอีกหนึ่ง "ประวัติศาสตร์" ให้กับประเทศ ด้วยการเป็นนายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนแรกซึ่งถูกฟ้องคดีอาญาระหว่างดำรงตำแหน่ง และเป็นผู้นำอิสราเอลคนแรกที่มาขึ้นศาลด้วยตัวเองขณะยังอยู่ในตำแหน่งด้วย

โดยการขึ้นศาลครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์ หลังเนทันยาฮูสาบานตนรับตำแหน่งเป็นสมัยที่ 5 ในคณะรัฐบาลผสมแห่งชาติ ร่วมกับพรรคน้ำเงิน-ขาว ซึ่งเป็นอดีตพรรคแกนนำฝ่ายค้าน

 
อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮูกล่าวก่อนเข้าสู่ห้องพิจารณาคดี ว่าคดีความทั้งหมด "ไร้สาระและไม่เป็นความจริง" โดยเป็นความพยายามล่าแม่มดของกลุ่มการเมืองที่ต้องการโค่นอำนาจเขาเท่านั้น เพราะเขา "แข็งแกร่งมาตลอด" ขณะที่บรรยากาศด้านนอกศาลมีทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้านเนทันยาฮูชุมนุมประจันหน้ากัน
 

 
ทั้งนี้ นายเอวิกฮาย แมนเดลบลิต อัยการสูงสุดของอิสราเอล ซึ่งเนทันยาฮูแต่งตั้งเองเมื่อเดือนก.พ. 2559 ประกาศเมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว เกี่ยวกับคดีที่สื่อท้องถิ่นเรียกกันว่า " 1000 2000 และ 4000" โดย "คดี 1000" เกี่ยวข้องกับการที่เนทันยาฮูและครอบครัวรับ "ของขวัญฟุ่มเฟือย" ที่รวมถึงซิการ์ราคาแพง แชมเปญ และเครื่องเพชรจากนักธุรกิจหลายคน รวมมูลค่ามากกว่า 700,000 เชเขล ( ราว 6.3 ล้านบาท ) เพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ทางธุรกิจและการเมือง

กลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู
 
ขณะที่ "คดี 2000" เกี่ยวกับ "ข้อตกลงลับ” ระหว่างเนทันยาฮูกับหนังสือพิมพ์ “ยีดิออต อาฮาโรนอต”  ซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์รายใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ให้เสนอข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับรัฐบาลมากขึ้น ในขณะที่ภาครัฐออกมาตรการควบคุมการทำงานของ “อิสราเอล ฮายิม" ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์คู่แข่งของยีดิออต อาฮาโรนอต

ฝ่ายต่อต้านชุมนุมขับไล่รัฐบาลอิสราเอลอยู่อีกฝั่งหนึ่งของศาล
 
ส่วน "คดี 4000" นั้นแมนเดลบลิตกล่าวว่า "ร้ายแรงที่สุด" คือการที่เนทันยาฮูลงนามอนุมัติสัมปทานมูลค่า 1,800 ล้านเชเขล ( ราว 16,265.28 ล้านบาท ) ให้กับ "เบเซค เทเลคอม" บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของอิสราเอล แลกกับการที่สื่อในเครือของเบเซค เทเลคอมทั้งหมดจะเสนอข้อมูล "สนับสนุน" เนทันยาฮู อนึ่ง อัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องนายชาอุล อีโลวิต์ช ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเบเซค เทเลคอม และภรรยาด้วย.

เครดิตภาพ : AP, REUTERS