ไม่ระบุวัด! กลุ่มเพื่อนรับศพ “จ่าคลั่ง” ไปเผาชัยภูมิ แม่ตรอมใจหนักอยู่ในค่ายทหารเยียวยาจิตใจ

ชัยภูมิ - เผยกลุ่มเพื่อนรับศพ “จ่าคลั่ง” ไปเผาที่ จ.ชัยภูมิ เงียบๆ ไม่ระบุวัด ขณะแม่ตรอมใจหนักหวั่นคิดสั้นฆ่าตัวตาย ทหารนำตัวไปอยู่ในค่าย กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา ให้แพทย์ช่วยเยียวยาจิตใจอย่างใกล้ชิด ขอทุกฝ่ายตั้งสติฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน

วันนี้ (14 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีที่ยังไม่มีญาติไปติดต่อขอรับศพ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี ทหารหน่วยกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามยิงกราดประชาชนในพื้นที่ จ.นคราชสีมา เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวันที่ 8-9 ก.พ.ที่ ผ่านมา ซึ่งเหลือศพเดียวสุดท้ายอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมานั้น

ล่าสุดมีรายงานว่า วันนี้ได้มีทางกลุ่มเพื่อนนักเรียน จ.ชัยภูมิ และครูบางส่วนได้พยายามติดต่อสื่อสารกันผ่านทางไลน์กับกลุ่มศิษย์เก่าเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกันกับ จ.ส.อ.จักรพันธ์ เพื่อช่วยกันติดต่อกับทางแม่และญาติ เพื่อขอรับศพจ่าทหารคลั่งออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา มาจัดทำพิธีฌาปนกิจศพตามศาสนาในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ แบบเงียบๆ และจะเผาในวันเสาร์ที่ 15 ก.พ.นี้

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครให้ข้อมูลได้ว่าหลังนำศพจ่าทหารคลั่งมาถึงอยู่ในที่ จ.ชัยภูมิ แล้วจะนำไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดใด ซึ่งในส่วนของวัดหนองสังข์ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ บ้านเกิดของ จ.ส.อ.จักรพันธ์เอง ทางคณะกรรมการวัดก็พร้อมรับช่วยเหลือทำพิธีตามศาสนาให้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มเพื่อนหรือญาติติดต่อมาว่าจะนำศพมาเผาที่วัดแห่งนี้หรือไม่แต่อย่างใด รวมทั้งที่บ้านเกิดยังปิดเงียบไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน

ส่วนแม่ของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ล่าสุดทราบว่ายังทำใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ได้ มีอาการตรอมใจอย่างหนักและหลายฝ่ายเกรงว่าจะเกิดการคิดสั้นฆ่าตัวตายตามลูกไปด้วย ทางฝ่ายทหารกองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา จึงได้ช่วยนำตัวแม่ผู้ก่อเหตุไปพักอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัยในค่ายทหาร เพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลเยียวยาสภาพจิตใจอย่างใกล้ชิด พร้อมมอบหมายให้ญาติบางส่วนและเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกันช่วยรับภาระนำศพจ่าคลั่งไปทำพิธีเผาตามศาสนาที่ จ.ชัยภูมิ แบบเงียบๆ ไม่อยากให้ใครที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมงาน เพราะไม่อยากให้เกิดผลกระทบต่อครอบครัวและญาติพี่น้องโดยเฉพาะแม่ที่ขณะนี้สภาพจิตใจบอบช้ำหนักมากแล้ว และอยากขอให้ทุกฝ่ายตั้งสติและฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน