หลวงปู่สรวงละสังขารกว่า19ปีไม่เน่าเปื่อย

บูชาคุณหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ละสังขารกว่า 19 ปี แต่สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย

ที่บริเวณหน้ามณฑปหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ได้นำคณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่สรวงทั้งชาวไทยจากทั่วประเทศและชาวกัมพูชา พากันนุ่งขาวห่มขาวมาร่วมในพิธีบวงสรวงเทพเทวาบูชาคุณหลวงปู่สรวงจำนวนมาก โดยคณะศิษย์ได้นำเอาเครื่องบวงสรวงและอาหารจำนวนมากมาตั้งบริเวณปะรำพิธี เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา มีการประกอบพิธีเจริญจิตภาวนา แผ่เมตตา และถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ -สามเณร ซึ่งการจัดพิธีบวงสรวงเทพเทวาบูชาคุณหลวงปู่สรวงในครั้งนี้ คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่สรวงได้นำเอารูปหล่อหลวงปู่สรวงมาบวงสรวง และขณะที่คณะศิษย์ได้ร้องบทสวดเป็นภาษากัมพูชา เพื่อระลึกถึงพระคุณของหลวงปู่สรวง ปรากฏว่า ลูกศิษย์หลายคนถึงกับร่ำไห้ออกมาเสียงดังด้วยความเคารพศรัทธา และระลึกถึงพระคุณของหลวงปู่สรวงที่ได้ให้พรอันเป็นมงคลทำให้ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง มีอาชีพการงานที่เจริญก้าวหน้ามาโดยตลอด ทำให้มีความอยู่ดีกินดี ครอบครัวอบอุ่น ซึ่งพระครูโกศลสิกขกิจได้ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้แก่ผู้มาร่วมในพิธีทุกคนเพื่อความเป็นสิริมงคล

พระครูโกศลสิกขกิจ ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา เปิดเผยว่า หลวงปู่สรวงเป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นชาว อ.พนมกุเลน จ.พระวิหาร ประเทศกัมพูชา ท่านได้ธุดงค์เข้ามาในประเทศไทยเมื่อใดไม่มีใครรู้ชัดเจน มีชาวไทยและชาวกัมพูชาเข้าไปกราบเป็นลูกศิษย์ท่านจำนวนมาก หลวงปู่สรวงท่านได้ละสังขารอย่างสงบ เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 8 กันยายน 2542 (ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง) อาตมาภาพได้อัญเชิญสรีระสังขารของหลวงปู่มาไว้ที่ศาลาของวัดไพรพัฒนา พร้อมกับจุดธูปอธิษฐานว่า “หากเป็นความประสงค์ของหลวงปู่ที่จะให้ลูกหลานได้บำเพ็ญกุศลในที่นี่จริงก็ขอให้ดำเนินการไปโดยเรียบร้อย และก็ขอให้มีลูกศิษย์ของหลวงปู่เดินทางมาร่วมบำเพ็ญกุศลโดยทั่วกันด้วย” ซึ่งได้มีการจัดบำเพ็ญกุศลให้กับหลวงปู่มาอย่างต่อเนื่องทุกปี มาจนถึงปัจจุบันนี้