แค่ชื่อก็ซื้อแล้ว! “ครูเป็ด” เผยมีทั้งอดีต กปปส.- เสื้อแดง - ปชป.-เพื่อไทย ที่ผิดหวังการเมืองเก่า ร่วมตั้ง “พรรคกล้า”
by ผู้จัดการออนไลน์“ครูเป็ด-มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร” เผยผู้ร่วมก่อตั้ง 'พรรคกล้า' มีทั้งอดีต กปปส.- เสื้อแดง - ปชป. – เพื่อไทย ที่ผิดหวังการเมืองแบบเก่า และต้องการการเปลี่ยนแปลง ยอมรับการเมืองไม่ง่าย อาจได้ทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(14 ก.พ.63) เฟซบุ๊ก นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร หรือ “ครูเป็ด” ศิลปินผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรี โพสต์ หัวข้อ “วันแห่งความรัก...เป็นก้าวแรกที่ผมเข้าสู่เวทีการเมือง”
โดยระบุว่า “1. ได้รับการติดต่อจากคุณกรณ์ จาติกวณิช ชักชวนมาร่วมก่อตั้งพรรคใหม่...เมื่อได้คุยกับคุณกรณ์แล้ว เห็นแนวคิดใกล้เคียงกัน ผมจึงตัดสินใจ...เอาด้วย
2. วันนี้ไปยื่นเตรียมการจัดตั้งพรรคใหม่ที่ กกต. โดยมีคุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี นำทีม...หลายคนอาจมีคำถามว่า เป็นพรรค กปปส. เก่าหรือ
3. ขอบอกว่า...ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคนี้มีทั้ง อดีต กปปส. อดีตเสื้อแดง อดีตประชาธิปัตย์ อดีตเพื่อไทย และหน้าใหม่ๆอย่างผม...ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน
4. อดีตผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองทุกคน ต่างก็ผิดหวังและได้เรียนรู้มาเหมือนกันว่า การทำการเมืองแบบเก่าไม่ว่าจะฝั่งไหน ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาได้
5. ผมเองก็ได้เรียนรู้ว่า...การเป็นผู้สนใจ และวิจารณ์การเมือง...เพียงเท่านั้นก็ไม่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้เหมือนกัน...พูดง่ายๆคือ แค่นั่งบ่น คงไม่มีอะไรดีขึ้น
6. การนั่งบ่นอยู่วงนอก...เรามีอิสระในการนำเสนอความคิดของเรา 100٪...การกระโจนลงไปทำ อาจจะไม่มีอิสระทางความคิด 100%...แต่มันสร้างความเปลี่ยนแปลงได้...ผมตัดสินใจอย่างหลัง
7. แน่นอน เมื่อผมตัดสินใจทำการเมือง ย่อมจะได้รับทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ...ผมน้อมรับ
เพียงแต่ขอให้เป็นการวิจารณ์ด้วยเหตุด้วยผล และความสุภาพ
8. ผมและพรรคกล้า...พร้อมเปิดรับแนวคิดจากทุกคน...ใครมีอะไรที่อยากเสนอ ติดต่อผมมาได้เลยครับ อย่าลังเล...
9. เราทำการเมืองระยะยาวครับ โดยมองไปที่การเลือกตั้งคราวหน้า...ช่วงนี้เป็นช่วงรวบรวมคน รวบรวมแนวคิดจากทุกคนให้ได้มากที่สุด
10. ถ้าอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง...เราต้องกล้าลงมือ
...ครับ
ทั้งนี้ วันนี้(14 ก.พ.63) เช่นกัน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกล้า (ร่วมกับนายกรณ์ จาติกวณิช) ได้นำทีมเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อยื่นเอกสารขอจดตั้งพรรคการเมืองเรียบร้อย
ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช แกนนำพรรคกล้า ก็ได้โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมข้อความระบุว่า
กล้า.. เรามาเพื่อลงมือทำ
เราแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง
ชื่อพรรคว่า "กล้า" ครับ #พรรคกล้า !
เพราะประเทศต้องการความกล้าในการ "ลงมือทำ"
ต้องการความกล้าในการ "สร้างความเปลี่ยนแปลง"
ผมจึงขอเชิญชวนผู้กล้าทุกคนที่มีความคิดสร้างสรรค์
และเห็นศักยภาพของประเทศ กล้าที่จะมาร่วมลงมือทำ
ด้วยกันกับพวกเราครับ
#รวมพลคนมีของ #เรามาเพื่อลงมือทำ
นอกจากนี้ ทีมงาน "พรรคกล้า" ได้เผยแพร่เอกสารภายหลัง นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคได้ยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขอจดจัดตั้งพรรค เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเอกสารดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้
ยึดหลักปฏิบัตินิยม ลั่น “เรามาเพื่อลงมือทำ"
คลอดแล้วพรรคใหม่ ภายใต้การนำของ กรณ์ จาติกวณิช จดจองชื่อพรรควันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2563 พร้อมเปิดตัวพรรค โดยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ได้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งพรรคกับ กกต. เมื่อเวลา 10.00 น. พร้อมทั้งให้เหตุผลถึงการเลือกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันแห่งความรักในการจดจัดตั้งพรรคว่า เป็นการสื่อถึงการเกิดขึ้นของพรรคที่มาจากความรัก ซึ่งเป็นความรักที่มีต่อประเทศชาติ จากผู้คนหลากหลายกลุ่มมารวมตัวกัน โดยหวังที่จะนำพาชาติบ้านเมืองพัฒนาไปข้างหน้า
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า พรรคใหม่ที่เพิ่งไปจดจัดตั้งมาชื่อว่า “กล้า” เป็นพรรคแนวสตาร์ทอัพ ที่จะเป็นแพลตฟอร์ม เพื่อเปิดพื้นที่ให้คนไทยทุกคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าทำ กล้าเปลี่ยนแปลง เข้ามาทำงานด้วยหัวใจที่มีอุดมการณ์เดียวกัน คือหลักปฏิบัตินิยม คือ เชื่อในเรื่องการลงมือทำ ด้วยความเป็นมืออาชีพในเรื่องต่าง ๆ ที่แต่ละคนสะสมความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ที่ถนัดเชี่ยวชาญจากทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มคนชนชั้น ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
โดยภารกิจแรกที่จะทำหลังการเปิดตัวพรรคแล้วนั้น นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า จะรวมพลคนมีของ สรรหาผู้กล้าเข้ามาร่วมเป็นผู้ก่อตั้งพรรคตามกฎหมาย กกต. โดยทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะลงมือทำจริงในยุคที่มีความท้าทายรุมเร้าจากสารพัดทิศทาง ประเทศไทยของเราจะต้องก้าวไกลทันโลก พร้อมรับต่อทุกการเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะลุยกับทุกสถานการณ์ ด้วย Global Mindset ที่มีรอบคอบแม่นยำด้วยระบบดาต้า ข้อมูล ข้อเท็จจริง
“ตอนนี้เราได้เปิดเพจ “กล้า” ขึ้นมาแล้วใน Facebook เป็นช่องทางง่ายๆ ช่องทางแรก จากนั้นต้องรอกระบวนการทางกฎหมายจากกกต.ให้มีความชัดเจน อีกไม่นานจะมีการเปิดประชุมใหญ่ และในวันนั้นจะมีการเปิดตัวระบบ sandbox ทำ crowdsourcing หรือกลุ่มคนในโลกออนไลน์ที่มีของ ที่มีไอเดียที่พร้อมลงมือทำในสิ่งดีๆ ให้สำเร็จ
วันนี้ช้างเผือก จอมยุทธ์ ทั่วประเทศท่านใดรู้ตัวว่า ท่านคือคนๆ นั้น! ขอให้ติดต่อมา 3 เพจหลักคือ เพจ “กล้า”- “กรณ์” หรือ “อรรถวิชช์” เราพร้อมที่จะรับฟังไอเดียจากทุกท่าน” นายอรรถวิชช์ กล่าว
นอกจากนี้ นายอรรถวิชช์ ยังได้เปิดตัวคนกลุ่มแรกที่พร้อมมาทำงานด้วยกันภายใต้พรรค “กล้า” คือ 1-คุณหมู-วรวุฒิ อุ่นใจ ตัวพ่อแห่งวงการ SME ไทย 2-ครูเป็ด-มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร ศิลปินผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรี เจ้าของเพลงฮิตมากมาย 3-คุณเหมือน-เบญจรงค์ ธารณา สาวแฟชั่นออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย และอีกหลายท่าน ทั้งนี้ หากท่านใดที่รู้ตัวว่ามีของให้บอกมา เราพร้อมจะไปคุยเพื่อลงมือทำจริงด้วยกัน ภายใต้อุดมการณ์ 4 ข้อ ซึ่งเป็นหัวใจของพรรคคือ
1.หลักปฏิบัตินิยม 2. การนำประเทศเข้าสู่โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ 3. การเมืองที่ประสานคนต่างวัยมาเดินหน้าไปพร้อมกัน และ 4.เป็นพรรคการเมืองในฐานะพื้นที่กลาง (platform) ที่รวมผู้กล้าในแต่ละสาขาอาชีพมาร่วมออกแบบและขับเคลื่อนประเทศไทยไปพร้อมกัน...
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือ มุมมองจากนักการเมืองรุ่นเก๋า และเป็นเพื่อนในพรรคประชาธิปัตย์ของ “กรณ์” และ “อรรถวิชช์” อีกด้วย นั่นคือ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์
นายเทพไท กล่าวถึงการตั้งพรรค “กล้า” ของนายกรณ์ ว่า ขอแสดงความยินดีกับนายกรณ์ พร้อมทีมงาน ขอให้โชคดี และประสบความสำเร็จ สำหรับการใช้ชื่อพรรคกล้า ก็น่าจะเป็นชื่อที่เจาะตลอดกลุ่มคนร่นใหม่มากกว่า เพราะถ้าจะให้เป็นชื่อพรรคการเมืองในเชิงสถาบัน ก็น่าจะใช้ชื่อที่บ่งบอกถึงความเป็นการเมืองมากกว่านี้
นายเทพไท กล่าวอีกว่า ตอนแรกนายกรณ์ยกตัวอย่าง “แอปเปิล” สามารถเป็นชื่อบริษัทที่ประสบความสำเร็จได้ ตนก็คิดว่านายกรณ์จะใช้ชื่อพรรค “พริกไทย” ตนจึงได้ส่งโลโก้รูปพริกขี้หนูไปให้ใช้เป็นโลโก้พรรค แต่นายกรณ์ ปฎิเสธว่า ฝรั่งจะกลัวเพราะร้อนแรงงเกินไป เลยมาจบที่ชื่อพรรคกล้า ตามที่โฆษณาไว้ ซึ่งก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป เพราะชื่อพรรคเป็นเพียงตัวประกอบ เนื้อหาที่แท้จริงอยู่ที่นโยบาย และผลการกระทำมากกว่า
เมื่อถามว่า พรรคกล้า ตั้งขึ้นมาจะแย่งฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายเทพไท กล่าวว่า ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นฐานเสียงที่แน่นอนตลอด คือกลุ่มคนระดับกลางขึ้นไป ตลาดคนรุ่นใหม่ก็มีบ้าง ซึ่งพรรคของนายกรณ์ น่าจะไปเจาะตลาดของพรรคอนาคตใหม่มากกว่า ยิ่งประกอบกับกระแสการยุบพรรคอนาคตใหม่ กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ ก็ทำให้ตลาดคนรุ่นใหม่ค่อนข้างสับสน อาจจะตัดสินใจเลือกพรรคกล้าเป็นทางออกทางการเมืองก็ได้
นายเทพไท กล่าวปฏิเสธว่า พรรคกล้า ไม่ได้เป็นสาขาของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะประชาธิปัตย์ ไม่เคยคิดตั้งพรรคสาขา และไม่เคยใช้ทฤษฎีแตกแบงก์ย่อย แต่ก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่ทำงานการเมืองร่วมกัน ซึ่งไม่ปฏิเสธความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ความคิดและวิธีการทำงานอาจจะแตกต่างกัน ซึ่งจะต้องเคารพความคิดเห็นกัน เพราะถ้าเขาคิดเหมือนกับคนส่วนใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ ก็คงจะไม่แยกตัวไปตั้งพรรคกล้าเหมือนตอนนี้
แน่นอน, ท่ามกลางการเมืองที่ต่อสู้กันอย่างรุนแรง ระหว่าง ซ้ายสุดโต่ง กับ ขวาสุดโต่ง รวมทั้งสายกลางที่เรียกตัวเองว่า ประชาธิปไตย ก็เป็นประชาธิปไตยจอมปลอม มีเบื้องหลังของการเข้าสู่อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มทุน อย่างเห็นได้ชัด จนทำให้คนไทยร่วมเบื่อหน่าย และหาทางเลือกใหม่มาตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไป 24 มี.ค.62 แล้ว และส่งผลให้พรรคอนาคตใหม่ ได้ส.ส.เข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
การเมืองทางเลือกใหม่ ที่เสนอขาย โดย “กรณ์” และ “อรรถวิชช์” จึงได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว ยิ่งกว่านั้น อุดมการณ์ของพรรค ก็ยัง “เกาถูกที่คัน” ของคนไทย คือ ยึดหลักปฏิบัตินิยม ซึ่งการเมืองแบบเก่า ได้แต่พูดและดิสเครดิตกันไปวันๆ ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากโครงการขนาดใหญ่ได้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงเท่านั้น ซึ่งรู้กันดีทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะส.ส.เองก็ออกมาแฉกันอยู่ทุกวัน
แต่ถึงกระนั้น ก็คงต้องยึดภาษิตที่ว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” พรรคกล้าต้องพิสูจน์ตัวเอง