‘ครม.เศรษฐกิจ’ ชี้ยกเลิก ‘VOA’ ต้องพิจารณารอบคอบ!!
by The Bangkok Insight Editorial Team“ครม.เศรษฐกิจ” ไฟเขียวแผนพยุงอตุสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมตั้งคณะกรรมการ Ease of Traveling เสริมแกร่ง มองยกเลิก “VOA” ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงภายผลประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า ผลกระทบจากการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส ล่าสุดทางสำนักงาน ททท.ทั้ง 5 แห่งในประเทศจีน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉินตู คุนหมิง และกวางโจว รายงานสถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวจีน ที่จะเดินทางเข้าไทยตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2563 เที่ยวบินเดินทางเข้ามาไทยลดลงประมาณ 80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา คาดว่าจะทำให้รายได้ท่องเที่ยวหายไปประมาณ 95,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ททท.ได้ยืนยันเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ปี 2563 ไว้ตามเดิม คือ มีจำนวนนักท่องเที่ยวตลอดปีนี้ 41.8 ล้านคน เพิ่มจากปีที่แล้วที่มียอดนักท่องเที่ยวรวม 39.8 ล้านคน รายได้ตลาดต่างประเทศปีนี้กว่า 2.22 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ ททท.ได้เสนอมาตรการและ ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบ โดยมาตรการเทียบเคียงกับช่วงเหตุการณ์การระบาดของ โรคซาร์สมาใช้ แบ่งเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนนี้ มาตรการระยะเร่งด่วน คือ มาตรการบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2019 ประกอบด้วย 4 มาตรการ คือ
1. สื่อสารสร้างความเข้าใจแก่คนไทยและนักท่องเที่ยวด้วย Single message ด้วยข้อความว่า “ห่วงใยและให้ความสำคัญกับคนไทย เป็นลำดับ 1 และแสดงความเห็นใจไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบ”
2. เฝ้าระวังและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว โดยยกระดับศูนย์ TAC เป็น One stop service ทุกหน่วยงาน ทุก Touch point ทำหน้าที่ให้คำแนะนำ เฝ้าระวังและแจ้งเหตุ
3. มีการเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยว รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบการ พร้อมจัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมดำเนินการยืดระยะเวลาชำระหนี้ และมีลดการ Landing fee บวกกับการลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน และมาตรการที่ 4 กระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งตลาดทดแทนต่างประเทศ ตลาดทดแทนในประเทศและการสื่อสารสร้างความมั่นใจ
“คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หากจีนยกเลิกคำสั่งออกนอกประเทศภายใน 3 เดือน แต่กระแสนักท่องเที่ยวเข้ามาจะไม่ดีขึ้นทันทีอาจต้องใช้เวลา 1-2 เดือนจะฟื้นฟูกลับมาเต็มที่ ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสดีที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเสริมสร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย กลับมาเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
ส่วนมาตรการระยะยาว ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อเป็นมาตรการเสริมสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน จะมีการตั้งคณะกรรมการ Ease of Traveling ทำหน้าที่ 3 ด้าน คือ 1.ปรับปรุงบริการ การอำนวยความสะดวกการเดินทางเข้าประเทศไทย 2. ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ผ่านการยกระดับคุณภาพและการบริการด้านการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มความพึงพอใจให้กับนักท่องเที่ยว และ 3.ดำเนินการกระตุ้นตลาด โดยสนับสนุน Charter Flight สำหรับนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีการใช้จ่ายสูง
ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจวันนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับถึงกรณีที่จะมีการยกเลิก VOA จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะทางการจีนยกเลิกการเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์แแล้ว นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้หายไป 100% และชาวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวแบบไม่ใช่กรุ๊ปทัวร์ ทางการจีนขอความร่วมมือไม่ให้ออกเดินทางก็ลดลงแล้ว 50% และได้เน้นย้ำผลกระทบเศรษฐกิจท่องเที่ยวและอื่น ๆ โดยรัฐบาลยืนยันให้ความสำคัญ แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ชีวิตและสุขภาพของประชาชน
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่ประเทศไทยเริ่มกระบวนการคัดกรองนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ขณะที่เมืองอู่ฮั่นห้ามเดินทางตั้งแต่ 23 มกราคม 2563 แต่นักท่องเที่ยวจากอู่ฮั่นเดินทางมาไทย 1-28 มกราคม 2563 จำนวน 20,271 คน เดินทางกลับออกไปแล้ว 17,541 คน เหลือ 2,730 คน
- เฮ!! 6 โมงเช้าพรุ่งนี้บินรับคนไทยในอู่ฮั่นกลับบ้าน
- ด่วน! สธ.ยืนยัน ‘คนขับแท็กซี่’ ไม่เคยไปจีนแต่ติดไวรัสโคโรนา
- ชี้จีนต่อสู้ ‘ไวรัสโคโรนาพันธุ์ใหม่’ ช่วยซื้อเวลาให้โลก
- สธ.ยกระดับควบคุมป้องกันโรค ประกาศคำเตือนระดับ 3 หลีกเลี่ยงเดินทางไปพื้นที่ระบาด
- ‘หมอหนู’ เซ็ง!! วอนหยุดส่งต่อข่าวปลอม ‘ไวรัสโคโรนา’
- ตายเพิ่มทุกวัน! ‘ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่’ ยอดติดเชื้อทั่วโลกสูงกว่าซาร์ส สหรัฐเจอ ‘คนสู่คน’ รายแรก
- ด่วน! องค์การอนามัยโลกประกาศ ‘ไวรัสอู่ฮั่น’ เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินระดับโลก