สหรัฐ "ทดสอบ" ช่องทางมนุษยธรรมถึงอิหร่าน

รัฐบาลวอชิงตันประกาศ "ความสำเร็จ" ในการ "ทดลอง" ใช้ช่องทางมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ชาวอิหร่าน ผ่านกลไกธุรกรรมในสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อให้แน่ใจว่ารัฐบาลอิหร่าน "จะไม่ได้รับผลประโยชน์"

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ว่านายไบรอัน ฮุก ผู้แทนพิเศษของสหรัฐด้านกิจการอิหร่าน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการทดลองใช้ช่องทางมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่พลเมืองอิหร่านในชื่อ “การบริหารจัดการการค้ามนุษยธรรมสวิส” ( เอสเอชทีเอ ) ให้ผู้ประกอบการในสวิตเซอร์แลนด์สามารถจัดส่งอาหาร ยาและเวชภัณฑ์ไปยังอิหร่าน ผ่านการทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินในสวิตเซอร์แลนด์  เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าทั้งหมดสามารถเดินทางไปถึงที่หมาย และเงินหมุนเวียนจากกระบวนการดังกล่าว “ไม่ตกถึงมือ” รัฐบาลเตหะราน
 

ฮุกกล่าวว่าการจัดส่งสิ่งของในช่วงการทดลองเกิดขึ้น 3 ครั้ง แต่ไมได้บอกว่าเมื่อใด โดยบริษัทและสถาบันการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ “ที่ผ่านการคัดเลือก” ดำเนินการอย่างถูกต้องตามเงื่อนไข และอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ของรัฐบาลวอชิงตัน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการละเมิดการคว่ำบาตรเกิดขึ้น และสินค้าทั้งหมด “ถึงชาวอิหร่านจริง” แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดในส่วนนี้

ทั้งนี้ สหรัฐกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่ออิหร่าน นับตั้งแต่ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ เมื่อเดือนพ.ค. 2561 ขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ( ไอซีเจ ) พิพากษาเมื่อเดือนต.ค. 2561 ให้รัฐบาลวอชิงตันยกเว้นการคว่ำบาตรซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของพลเมืองอิหร่าน ซึ่งรัฐบาลวอชิงตันปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่เคยเพิ่มแรงบีบทางเศรษฐกิจ ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานด้านมนุษยธรรมของอิหร่าน
 

ขณะที่นายอาลีเรซา เมียร์ยูเซฟี โฆษกคณะผู้แทนถาวรอิหร่านประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวว่าการที่สหรัฐยอมเปิดช่องทางดังกล่าวในที่สุดคือหลักฐานชัดเจนว่า คำกล่าวของรัฐบาลวอชิงตันว่ายกเว้นการคว่ำบาตรด้านอาหารและยารักษาโรคต่ออิหร่านตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “ไม่เป็นความจริง” และสหรัฐยังคง “ก่อการร้ายทางเศรษฐกิจ” ต่อชาวอิหร่านจนถึงปัจจุบัน ด้านนายอับโดลนาเซอร์ เฮมมาตี ผู้ว่าการธนาคารกลางอิหร่าน กล่าวว่า "การทดลอง" ดังกล่าวเป็นเรื่องจริง แต่หากสหรัฐ “มีความจริงใจ” ต้องยุติมาตรการคว่ำบาตรระบบการเงินทั้งหมด

อนึ่ง สหรัฐและอิหร่านไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันตั้งแต่หลังการปฏิวัติอิหร่าน เมื่อปี 2522 แต่มีสวิตเซอร์แลนด์เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์และทำหน้าที่ “คนกลาง” ให้กับทั้งสองประเทศ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES