https://www.posttoday.com/media/content/2019/12/09/613F93E2EFA24BA7877BC112308B3928.jpg

'พาณิชย์' เปิดแผนงานปี'63 ลุยตลาดส่งออก 18 ประเทศ ตั้งโต๊ะเจรจา FTA

by

'จุรินทร์' เดินหน้าเร่งส่งออก จัดโรดโชว์ขายสินค้า 16 ประเทศ พร้อมปรับเจรจา FTA แบบใหม่ เจาะลึกลงรายมณฑล ส่วนนโยบายข้าวเตรียมชงครม.เพิ่มมาตรการเสริมชะลอขายข้าวใหม่พยุงราคาไม่ให้ต่ำ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ว่า แผนการส่งออกปี 2563 เตรียมนำคณะของกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนเดินทางไปเปิดตลาดอย่างน้อยใน 16 ประเทศ ได้แก่ประกอบด้วย อินเดีย ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ ฮ่องกง จีน เวียดนาม ฝรั่งเศส อังกฤษ ตะวันออกกลาง รัสเซีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติมอร์เลสเต้ เกาหลี บังกลาเทศ มัลดีฟส์ กัมพูชา เป็นต้น

ทั้งนี้มีภาระกิจสำคัญ คือการเจรจาเปิดเขตการค้าเสรี(FTA)จะเร่งในส่วนที่การเจรเจรจายังไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะไทยกับตุรกี คาดจะเสร็จสิ้นภายในปีหน้า นอกจากนั้นมีไทย-ปากีสถาน และไทย-ศรีลังกาและที่จะเริ่มต้นใหม่ก็มีทั้งไทย-สหภาพยุโรป(อียู) ไทย-สหราชอาณาจักร ไทย-ฮ่องกง และกลุ่มประเทศ AFTA ซึ่งประกอบด้วยสวิตเซอร์แลนด์ ลิกเกนสไตล์ ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ เป็นต้น

ขณะเดียวกันได้มอบนโยบายให้เริ่มต้น FTA รูปแบบใหม่ที่จะลงลึกรายมณฑลหรือรายรัฐในประเทศที่เหมาะสมที่จะทำข้อตกลงพิเศษทางด้านการค้าและบริการระหว่างกัน เพื่อส่งเสริมการส่งออกให้สินค้าและบริการในเชิงลึกให้มากขึ้น เช่น อาจมีข้อตกลงพิเศษกับมณฑลบางมณฑลของจีน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการทำการค้าเสรีกับประเทศไทย หรือทำกับอินเดียบางรัฐที่มีความเหมาะสม เป็นต้น

สำหรับนโยบายเรื่องของข้าว ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ เตรียมนำมาตรการเสริมจากนโยบายประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวเข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรี(ครม.ประกอบด้วย 3 ด้าน คือ 1.การช่วยเหลือต้นทุนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 2. การช่วยเหลือเรื่องค่าปรับปรุงคุณภาพ และการเก็บเกี่ยว

3.มาตรการชะลอการขาย เนื่องจากช่วงนี้มีผลผลิตข้าวออกมามากจำเป็นต้องชะลอไม่ให้ข้าวใหม่ออกสู่ตลาดมากเกินไป จนส่งผลให้ราคาตก ประกอบด้วย 1. ถ้าชะลอขายในช่วงระยะเวลา 1-5 เดือน รับเงินช่วยเหลือของ คชก.ตันละ 1,500 บาท พร้อมนำข้าวไปเป็นประกันขอสินเชื่อ ธ.ก.ส. ได้ร้อยละ 80 ของราคาตลาด โดยไม่มีภาระดอกเบี้ยควบคู่ไปด้วยได้ 2.สถาบันเกษตรกรหรือสหกรณ์ ถ้าจะชะลอขาย 1-5 เดือนก็จะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาท แบ่งเป็น จัดสรรให้สถาบันเกษตรกร 1,000 บาท และเกษตรกร 500 บาท ขณะที่โรงสี ถ้ารับซื้อข้าวมาเก็บได้ในช่วง 2-6 เดือนก็จะมีเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษ กล่าวคือรัฐบาลจะช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3

อย่างไรก็ตามปี 2563 ยังคงใหความสำคัญกับนโยบายประกันรายได้เกษตรกร โดยยังเดินหน้าตามขั้นตอนกระบวนการ เพราะถือว่าเป็นนโยบายสำคัญอันหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ที่แถลงไว้กับรัฐสภา โดยจะมีมาตรการเสริมและมาตรการคู่ขนานสำหรับพืชแต่ละตัวดำเนินการควบคู่กันไปด้วย เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของระดับราคาและเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าสำหรับพืชบางตัวเข้ามา และทำให้ราคาพืชเกษตรตัวนั้นในประเทศตกลงไป