https://spcdn.springnews.co.th/wp-content/uploads/2019/12/car-3.jpg

“ศักดิ์สยาม” จัดเต็มขีดเส้นตาย 1 เดือน ออกกฎฯ เพิ่มความเร็วถนน 4 เลน รถวิ่ง 120 กม./ชม.

รมว.คมนาคม ประชุมคณะกรรมการแปรนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมไปสู่การปฏิบัติ สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแผนปฏิบัติการให้ชัดเจนภายใน 1 เดือน ทั้งความเร็วถนน 4 เลน รถวิ่ง 120 กม./ชม. พร้อมสรุปห้าม 10 ล้อวิ่งเข้ากทม.

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแปรนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมไปสู่การปฏิบัติ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ปรับแก้กฎกระทรวงในการกำหนดอัตราความเร็วสูงสุดของรถยนต์ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 ให้สอดคล้องกัน โดยใช้ประเภทของถนนเป็นเกณฑ์

เช่น ถนนที่มีช่องจราจรตั้งแต่ 4 ช่องจราจรขึ้นไป ซึ่งมีการแบ่งทิศทางการจราจรแยกออกจากกันและมีเกาะกลางหรือกำแพงกั้นเป็นความเร็วสูงสุดไม่เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งนี้ ควรกำหนดอัตราความเร็วต่ำสุดที่อนุญาตให้ใช้ในช่องจราจรขวาสุด รวมทั้งกำหนดบทลงโทษผู้ขับขี่ที่ใช้ช่องจราจรขวาสุดที่ใช้ความเร็วต่ำกว่า 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นต้น

https://spcdn.springnews.co.th/wp-content/uploads/2019/12/43968-1024x683.jpg

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมกัน เพื่อแก้ไขการใช้กฎหมายความเร็วให้สอดคล้องกันทั้ง 2 ฉบับ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอหน่วยงานให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎกระทรวงความเร็วก่อนเสนอ คจร. พิจารณา

นอกจากนี้ที่ประชุมยังพิจารณานโยบายปรับเวลาการอนุญาตให้รถยนต์บรรทุกขนาดตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป เข้าเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ตั้งแต่เวลา 24.00 – 04.00 น. ด้วยสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยได้มีหนังสือถึงกระทรวงคมนาคม เรื่อง ขอให้ทบทวนหรือชะลอนโยบายห้ามรถบรรทุกวิ่งเข้ากรุงเทพฯ และปริมณฑลบางเวลา

โดยเสนอว่า ปัญหาการจราจรของกรุงเทพฯ มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยและรถบรรทุกเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากในแต่ละวันมีรถบรรทุกวิ่งเข้า – ออกพื้นที่กรุงเทพฯ เฉพาะช่วงเวลาเพียงวันละ 12 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้น การขยายระยะเวลาห้ามรถบรรทุกเข้าเมืองเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุแต่จะมีผลกระทบต่อระบบโลจิสติกส์และระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง การขนส่งจะต้องเชื่อมต่อกันทุกระบบจะเกิดปัญหาลูกโซ่ ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ผลกระทบต่อการพักผ่อนเวลากลางคืนของชาวกรุงเทพฯ โดยมีข้อเสนอแนะดังนี้

https://spcdn.springnews.co.th/wp-content/uploads/2019/12/DSC9182-1024x683.jpg
https://spcdn.springnews.co.th/wp-content/uploads/2019/12/DSC9180-1024x683.jpg

– ทบทวนหรือชะลอนโยบายอนุญาตให้รถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อ วิ่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วงเวลา 24.00 – 04.00 น.
– ควรมีการประชุมกับเอกชนผู้เกี่ยวข้องให้รอบด้านเพื่อความรอบคอบ
– ให้ สนข. ร่วมกับสถาบันการศึกษาทำการศึกษารายละเอียดผลกระทบด้านโลจิสติกส์ให้รอบคอบ
– เลื่อนเวลาทำงานและเลิกงานของราชการและรัฐวิสาหกิจให้เลื่อมกัน เพื่อกระจายปริมาณรถยนต์และลดความแออัดบนถนน
– ย้ายโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรมออกนอกพื้นที่เมือง
– ยกเลิกการใช้ประโยชน์ท่าเรือกรุงเทพ และผลักดันการพัฒนาท่าเรือบก (DRY PORT)
– สร้างจุดพักรถบรรทุก สถานีขนส่งสินค้ารถบรรทุก เพื่อพักสินค้าและเปลี่ยนถ่ายสินค้ารถใหญ่ไปใช้รถเล็ก

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับข้อเรียกร้องดังกล่าวไปพิจารณา โดยกำหนดแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ให้ชัดเจนภายใน 1 เดือน ซึ่งมาตรการทั้งหมดต้องตอบโจทย์เรื่องการจราจร ต้นทุนการก่อสร้าง และให้พิจารณาข้อกฎหมายของ กทม. ประกอบด้วย โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประชาชนเป็นหลัก และผลกระทบต่อภาคเอกชนโดยให้พิจารณากำหนดมาตรการเยียวยาต่อไป