https://www.thaipost.net/main/uploads/photos/big/20191113/image_big_5dcc142a8460b.jpg

'อนุทิน'ลั่นเกลี่ยเก้าอี้ครม.ใหม่ไม่ง่ายเหมือนจ้ำจี้ผลไม้ เตือนอย่าไว้ใจ'งูเห่า'ไม่รู้วันไหนจะฉก

9 ธ.ค. 62 - นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข่าวอะไรในเรื่องการปรับ ครม. น่าจะเป็นการคาดเดาของสื่อมากกว่า ยังไม่มีการพูดคุยในรัฐบาลเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ หลังจากเกิดเหตุฝ่ายค้านมาร่วมเป็นองค์ประชุมเมื่อสัปดาห์ก่อน นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าแบบนั้นมันต้องมีเหตุจำเป็น หรืออาจจะมีนโยบายของแต่ละพรรคว่าการปรับ ครม.จะเป็นอย่างไร เมื่อทำงานไประยะหนึ่งแล้วอาจจะมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียน ประเมินผลงานรัฐมนตรีแต่ละคน ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะการปรับหรือการเปลี่ยนแปลงใน ครม. ทุกรัฐบาลสามารถเกิดขึ้นได้

เมื่อถามว่า ข่าวการปรับ ครม.ที่เกิดขึ้น เหมือนเป็นการเตือนพรรคประชาธิปัตย์ในการทำงานร่วมกับรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนทราบปัญหาอยู่แล้ว เราอย่าลืมว่ารัฐมนตรีแต่ละคนล้วนมีวุฒิภาวะ เขาต้องทราบอยู่แล้วว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เราอย่าไปซ้ำเติมเลย

เมื่อถามว่า ดูเหมือนแกนนำพรรคพลังประชารัฐ จะยังเป็นห่วงการทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร พรรคภูมิใจไทยเคยมีปัญหาอะไรกับใครหรือ มีแต่โดนกระแทก เราก็ทนอยู่

เมื่อถามว่า คนที่ปล่อยข่าวออกมา หวังผลให้มีการเคลียร์เก้าอี้รัฐมนตรีใหม่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “มันไม่หมูอย่างนั้นมั้ง นี่รัฐบาลนะ ไม่ใช่เล่นจ้ำจี้ผลไม้”

เมื่อถามว่า เมื่อรับประทานอาหารร่วมกันไปแล้ว ทำไมจึงยังมีข่าวแบบนี้ออกมาอีก นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีหรอก อย่างกรณีการโหวตมันคาดเดาได้อยู่แล้วว่าเสียงจะเป็นอย่างไร ตอนรับประทานข้าวแกนนำของแต่ละพรรคก็ให้สัญญาว่าจะไปทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อย่าไปคิดว่า โอ้โห นี่เธอผิดนิดเดียวจะต้องมีบทลงโทษอะไร เราทำงานด้วยกัน บางทีคนมันมีอะไรบางอย่างที่อยู่เหนือการควบคุม แต่ภาพรวมยังไปได้ อย่างนี้มันก็โอเค ก็เก็บสะสมแต้มไปเรื่อยๆ ถึงเวลาก็มานั่งสังคายนากันทีหนึ่ง ถือเป็นเรื่องปกติ นายกรัฐมนตรีต้องมีความอดทนสูงอยู่แล้ว พวกเราทุกคนต้องช่วยกันประคองให้รัฐบาลไปได้ ไม่ใช่เพื่อความอยู่รอดของรัฐมนตรี หรือพรรคร่วมรัฐบาล แต่ต้องการให้ประเทศเดินหน้าไปได้ เพราะประเทศจะขาดการทำงานไม่ได้

เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่าในสถานการณ์แบบนี้ ต้องมีการดึงคนมาเสริมให้รัฐบาลมีมั่นคงมากขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ส่วนตัวไม่เชื่อในเรื่องนี้ ลองคิดดูว่าถ้าพูดถึงงูเห่า ลองนึกสภาพดู การเลี้ยงงูเห่าอยู่ในบ้าน แล้วจะรู้ได้อย่างไรวันไหนจะมาฉกเรา ไม่ได้ คิดอะไรต้องคิดแบบระยะยาว จะแก้ปัญหาด้วยการไปดึงคนจากฝ่ายค้าน ถ้ามาแบบโยกพรรคย้ายพรรคมาเลย อย่างนี้โอเค แต่ไม่ใช่มาแบบตัวเองก็ยังสังกัดพรรคเดิมอยู่ แล้วเราจะเอาอะไรมารับประกันได้ว่าเขาย้ายมาอยู่กับเราแน่นอน เพราะมันยังมีมติพรรคต่างๆ ที่เขาสังกัดอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม การที่จะแก้ปัญหาหรือเสริมความเข้มแข็งด้วยการดึง ส.ส.ฝ่ายตรงข้ามมา มันไม่ใช่การแก้ไขปัญหาระยะยาว หรือไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างจริงจัง เขามาได้เขาก็ไปได้ คอยดูคนในบ้านให้ดีก่อนเถอะ”

เมื่อถามว่า การแก้ปัญหาระยะยาว วิธีใดดีที่สุด นายอนุทิน กล่าวว่า สร้างความเชื่อมั่น สร้างความเข้มแข็ง เข้าใจซึ่งกันและกัน มีปัญหาอะไรต้องมาว่ากัน แก้ไขกันไป มันมีทางออกทางอื่น การเมืองต้องมีทางออก ถึงทางตันไม่ได้ พอถึงทางตันมันจะมีเรื่องไม่ดีออกมา

เมื่อถามว่า การเมืองสมัยนี้ การซื้อใจและเชื่อใจกัน ใช้ไม่ได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ความจริงไม่ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นต้องนิ่งให้มาก และต้องเข้าใจกันให้มากที่สุด อย่าไปตาต่อตา ฟันต่อฟัน ตนเห็นความอดทนของนายกฯแล้วต้องชื่นชมเลย ท่านแสดงภาวะผู้นำได้อย่างสมบูรณ์ อย่างตนเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ก็โดนใครมากระแทก ใหม่ๆ อาจโกรธนิดนึงว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ แต่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เขียนไลน์ด่าลูกพรรคท่านให้เสร็จเลย รวมถึงตอนเย็นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็โทรศัพท์มาหาว่าอย่าไปถือสานะ นี่ไม่เกี่ยวกับพรรค ขอโทษแทนด้วย คนนี้ใช้ไม่ได้ แค่นี้ก็พอแล้ว ถือว่าจบ จะไปอะไรมากมาย

“เราต้องรู้ว่าเราอยู่ระดับไหน และคนที่มากระแทกเราอยู่ระดับไหน อย่าลดตัวลงไปต่อสู้ ก็เท่านั้น”

เมื่อถามถึงกรณีคนของพรรคพลังประชารัฐออกมา แล้วไปกระทบกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่น จะทำให้เกิดความกินแหนงแคลงใจกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เป็นไรหรอก เก็บๆ เอาไว้ อะไรทิ้งได้ก็ทิ้ง เราต้องดูว่าถ้าสมมุติตนโดน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาด่า แบบนี้สิโอเค ไอ้พวกกระจอกงอกง่อยอย่าไปถือสา มันต้องดูรุ่นเฮฟวี่เวทกับเฮฟวี่เวท มันยังโอเค แต่ถ้ารุ่นเฮฟวี่เวทไปต่อยกับฟรายเวท ถ้าชนะเขาไปมันได้อะไรขึ้นมา เขาก็หาว่าเราไปทุบคนไร้ราคาอีก