อนุทิน ยืนยันยังไม่ถึงเวลาปรับ ครม. ลั่นคนหาเรื่องตน-ภูมิใจไทย อยู่คนละระดับกัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า เป็นการคาดเดาของสื่อมวลชน ยังไม่มีการหารือในคณะรัฐมนตรี โดยมองว่า สาเหตุที่จะนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรี ต้องมีความจำเป็นจริงๆ หรือหากรัฐบาลทำงานมาสักระยะหนึ่ง ก็ต้องมีการประเมินและสับเปลี่ยนตัวบุคคล แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งทุกรัฐบาลก็มีการเปลี่ยนแปลงแบบนี้เป็นเรื่องปกติ
ทั้งนี้ เมื่อถามว่าเป็นการเตือนพรรคประชาธิปัตย์ที่ยกมือโหวตสวนมติพรรคร่วมรัฐบาลในการโหวตญัตติเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลกระทบจากคำสั่งหัวหน้า คสช. หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนทราบปัญหาดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีใครเตือนใคร ส่วนตัวเชื่อว่าวุฒิภาวะของแกนนำพรรคแต่ละคนรู้ดีว่าจะต้องแก้ไขปัญหาอย่างไร อย่าไปซ้ำเติม พร้อมย้ำว่าการทำงานในพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ไม่มีปัญหาอะไร พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยก็ไม่มีปัญหากับใครเช่นกัน มีแต่คนมาหาเรื่องพรรคภูมิใจไทย แต่เราก็ทนอยู่
ส่วนการปล่อยกระแสข่าวเรื่องของการปรับ ครม. เพื่อหวังให้เคลียร์เก้าอี้ต่างๆ นั้น นายอนุทินมองว่า คงไม่หมูขนาดนั้น นี่เป็นรัฐบาลไม่ใช่เล่นจ้ำจี้ผลไม้ และขออย่ามองว่าทำผิดเล็กน้อย จะต้องมีบทลงโทษ เพราะการทำงานด้วยกันก็มีบางคนที่อยู่เหนือการควบคุม แต่ภาพรวมสามารถเดินไปได้ก็โอเค เป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีความอดทนสูงอยู่แล้ว และพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนก็คอยช่วยกันประคอง เพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ใช่แค่คำนึงถึงความอยู่รอดของรัฐมนตรี แต่ต้องการให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ประเทศขาดการทำงานไม่ได้
นายอนุทิน ยังแสดงความไม่เห็นด้วยกับการดึงพรรคเศรษฐกิจใหม่มาร่วมรัฐบาล เพราะเชื่อว่าการดึงพรรคฝ่ายตรงข้ามมาร่วมรัฐบาลไม่ใช่การแก้ไขปัญหา หากเขาย้ายมาได้ เขาก็ย้ายไปได้ จึงขอให้ดูแลคนในบ้านให้ดีก่อน สร้างความเชื่อมั่น สร้างความเข้มแข็ง การทำงานการเมืองในสมัยนี้ต้องอาศัยความเข้าใจกัน อย่าตาต่อตาฟันต่อฟัน และขอชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่มีความอดทนและแสดงภาวะผู้นำได้อย่างสมบูรณ์
>> ลือหึ่ง! แกนนำเพื่อไทยหอบดีลร่วมรัฐบาลปรึกษา "แม้ว" หลังมีข่าวผู้ใหญ่ไม่ปลื้มค่ายสีฟ้า
นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ออกมาวิจารณ์ตนเองเรื่องของการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ ว่า ตอนแรกก็รู้สึกโมโห แต่พอเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เขียนไลน์ด่าลูกพรรคให้ และเมื่อคืนช่วงเย็นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็โทรมาขอโทษแทน และขอให้อย่าถือสาเพราะไม่เกี่ยวกับพรรค ตนเองก็จบแค่นี้ไม่ได้คิดอะไรมาก และต้องรู้ว่าเราอยู่ระดับไหน คนที่มากระแทกเราอยู่ระดับไหน อย่าลดตัวลงไปต่อสู้กับเขา