เล้าไก่ “เอ๋”พ่นพิษอีกรอบ ป่าไม้ขอรังวัดใหม่ หลังจากภาพถ่ายทางอากาศเจอมาที่หลังป่าสงวนฯ
กรมป่าไม้ ขอรังวัดที่ดินในเขตส.ป.ก. จำนวน 682 ไร่ใหม่ ยันเสร็จใน 7 วันทำการ ก่อนดำเนินคดี “ปารีณา”ฐานบุกรุกป่าหรือไม่ เผยภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นว่าฟาร์มไก่มาที่หลังป่าสงวนฯ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ว่า กรมป่าไม้ จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อทำการรังวัดพื้นที่ที่แท้จริงในเขต ส.ป.ก.จำนวน 29 แปลง เนื้อที่ 682 ไร่ ที่ น.ส.ปารีณา ส่งคืน ส.ป.ก.อีกครั้งในสัปดาห์นี้ ว่า
ข้อเท็จจริงมีจำนวนกี่ไร่ ซึ่งไม่น่าจะคลาดเคลื่อนไปจาก จำนวน 682 ไร่มากหรือน้อย เพราะการรังวัด ต้องทำเฉพาะที่ น.ส.ปารีณา ใช้ประโยชน์ ทั้งนี้ จะใช้เวลาทำการรังวัดไม่เกิน 7 วันทำการจะแล้วเสร็จ จากนั้น กรมป่าไม้จะนำมาพิจารณาร่วมกับข้อเท็จจริงที่กรมป่าไม้มีอยู่ คือ การครอบครองพื้นที่ 682 ไร่ ของ น.ส.ปารีณา จากการแปรภาพถ่ายทางอากาศ และการใช้ประโยชน์จากที่ทำกิน ซึ่งพบว่า มีร่องรอยการเข้าทำประโยชน์ระหว่างปี 2537 – 2543 ซึ่งแน่นอนว่าหลังปี 2527 ซึ่งเป็นปีที่มีการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายลุ่มน้ำภาชี
โดยจะนำข้อมูลใหม่จากการรังวัดและข้อมูลเดิมมาพิจารณาร่วมกับฝ่ายกฎหมายรวมทั้งคำตอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่จะชี้แนวทางเรื่องนี้ด้วยว่า ที่ดิน ส.ป.ก.ที่เจ้าหน้าที่ทำการรังวัดมาใหม่ ยังคงถือเป็นที่ดินตามพ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ.2484 หรือไม่ หากชัดเจนว่า ยังคงเป็นที่ป่าไม้ จะดำเนินคดีฐานความผิดบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่ม
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่า กรมป่าไม้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศกับผู้กระทำความผิดฐานบุกรุกป่า โดยขณะนี้ ได้กำชับให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะยึดถือตามการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งระบุว่า เขตปฏิรูปที่ดินซึ่ง ส.ป.ก. ได้มีแผนการดำเนินการงานและงบประมาณเพื่อจัดสรรสิทธิแล้วถือว่า เป็นที่ดินของ ส.ป.ก. หรือ ยึดถือตามคำตัดสินของศาลฎีกาที่พิพากษาลงโทษผู้ครอบครองเขตปฏิรูปที่ดินซึ่งยังไม่เข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิว่า ยังคงถือเป็นที่ดินตามพ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ดังนั้น จะเข้าข่ายบุกรุกที่ป่าไม้ซึ่งพร้อมจะดำเนินคดีแก่ผู้ครอบครองตามมาตรฐานเดียวกันทุกราย
นายอรรถพล กล่าวว่า การดำเนินคดีกับที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 682 ไร่ ที่กรมป่าไม้ จะลงพื้นที่รังวัดใหม่ จะใช้เวลาไม่นานและขอให้ได้ข้อยุติในเรื่องกฎหมายก่อน ถ้าผิดฟ้องแน่นอนเหมือนกรณีที่กรมป่าไม้ได้ดำเนินคดีใน 46 ไร่เศษ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา