งง'เขาสนฟาร์ม'ของ'ปารีณา' ตกสำรวจคำสั่งหัวหน้าคสช.

เปิดราชกิจจานุเบกษา คำสั่งคสช.ที่ 36/2559 สุดงงพบ”เขาสนฟาร์ม”ที่ราชบุรี ของ”เอ๋ ปารีณา”ตกสำรวจคำสั่งหัวหน้าคณะคสช. แฉสำนักปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จ.ราชบุรี ไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่ง

จากกรณีการตรวจสอบการถือครองที่ดิน ของ น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่จ.ราชบุรี ว่า มีความถูกต้องหรือไม่ โดยกรมป่าไม้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ารังวัดที่ดิน โดยทางด้าน น.ส.ปารีณา ได้ให้ตัวแทนไปแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ที่บุกรุกเข้าไปในฟาร์มไก่ เขาสนฟาร์ม โดยไม่ทราบว่าเป็นใคร และผู้ที่เข้าไปในเขตฟาร์มไก่ มีหมายศาลเข้าไปหรือไม่ ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่  29 พ.ย.ผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจสอบข้อมูล  พบว่าเมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม 2559  ราชกิจจานุเบกษา ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 36/2559  เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดิน ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมโดยมิชอบ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ให้มีการส่งมอบพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ที่เสื่อมโทรมเพื่อนำพื้นที่ไปดําเนินการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม

แต่จนถึงปัจจุบันได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ยังมีแปลงที่ดินที่ยังมิได้ทําการสํารวจรังวัด อยู่อีกเป็นจํานวนมาก  เนื่องจากมีผู้ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวต่างไม่ให้ความร่วมมือหรือความยินยอมเพื่อเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม หรือแม้กระทั่งในบางรายที่ได้มีคําพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แต่การส่งมอบพื้นที่คืนเพื่อให้ สํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนําไปดําเนินการจัดที่ดินตามกฎหมายก็ยังไม่ได้รับการปฏิบัติ ตามคําพิพากษา

นอกจากนี้ ยังปรากฏว่ามีบุคคลซึ่งไม่มีสิทธิครอบครอง โดยชอบด้วยกฎหมายเข้าใช้ประโยชน์ โดยอ้างสิทธิในที่ดินจากการซื้อขายต่อจากเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินหรือมีการเปลี่ยนมือที่ดิน ที่จัดให้แก่เกษตรกรเพื่อถือครองที่ดินเป็นแปลงขนาดใหญ่ และได้นําพื้นที่ดังกล่าวไปประกอบเกษตรกรรม ในรูปแบบการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งจะมีผลกระทบต่อระบบนิเวศน์อย่างรุนแรงในระยะยาว หรือในบางกรณี ปรากฏพื้นที่ข้างเคียงเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมยังคงเป็นพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งหากมีการใช้ประโยชน์ ที่ดินไม่เหมาะสม อาจมีปัญหาการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติมซึ่งกระทบต่อความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติและก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้

จากคำสั่ง คสช.ที่ 362/2559 พบว่าได้มีคำสั่งให้ สำนักปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ดำเนินการสำรวจตรวจสอบกำหนดพื้นที่เป้าหมายการถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งพื้นที่ จังหวัดราชบุรี ก็เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายอยู่ในแผนที่จะต้องตรวจสอบตามคำสั่ง คสช.ดังกล่าว แต่พบว่า เขาสนฟาร์ม หลุดรอดจากการเข้าตรวจสอบของทาง สำนักปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จ.ราชบุรีได้อย่างไร และ เจ้าของเขาสนฟาร์ม ได้มีการมาแสดงตัว ว่าได้ครอบครองพื้นที่ บริเวณดังกล่าวอยู่หรือไม่  เพราะคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีคําสั่ง ว่า

ในข้อที่ 2 เมื่อสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประกาศ กําหนดพื้นที่เป้าหมายตามข้อ 1 (1) ให้สํานักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดปิดประกาศพื้นที่เป้าหมายไว้ในที่เปิดเผย ณ ที่ว่าการอําเภอ ที่ทําการกํานัน ที่ทําการผู้ใหญ่บ้าน และที่ทําการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แห่งท้องที่ซึ่งพื้นที่เป้าหมายตั้งอยู่ เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน  และให้นายอําเภอ กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ปิดประกาศนั้น มีหน้าที่รักษาความมีอยู่หรือความสมบูรณ์ของประกาศด้วย  

ข้อ 3 ให้ผู้ครอบครองที่ดินในพื้นที่เป้าหมายตามข้อ 1 (1) ยื่นคําร้องเพื่อแสดงสิทธิ ในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินหรือกฎหมายอื่น ต่อสํานักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดภายในสิบห้าวัน นับแต่วันปิดประกาศตามข้อ 2 และให้สํานักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดตรวจสอบหลักฐานแสดงสิทธิ ในที่ดินของผู้ครอบครองที่ดินในพื้นที่เป้าหมายให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคําร้อง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กําหนด การยื่นคําร้องตามวรรคหนึ่ง ให้แสดงหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (1) โฉนดที่ดิน โฉนดตราจอง หรือตราจองที่ตราว่า “ได้ทําประโยชน์แล้ว”  (2) หนังสือรับรองการทําประโยชน์ในที่ดิน (น.ส.3 น.ส.3 ก. น.ส.3 ข. หรือแบบหมายเลข 3)  (3) หลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. 1)  (4) ใบแจ้งความประสงค์จะได้สิทธิในที่ดิน (ส.ค. 2)  (5) ใบจอง  (6) ใบเหยียบย่ํา  (7) หนังสือแสดงการทําประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ (น.ค. 3กสน. 3 หรือ กสน. 5)  (8) หนังสือแสดงสิทธิอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐโดยชอบด้วยกฎหมาย

และข้อ 4 ในพื้นที่เป้าหมายตามข้อ 1 (1) เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาตามข้อ 3 หากผู้ครอบครองที่ดินไม่มายื่นคําร้องแสดงสิทธิในที่ดิน หรือสํานักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพิจารณาแล้วไม่เห็นชอบกับคําร้องตามข้อ 3 หรือไม่ปรากฏว่ามีผู้ครอบครองที่ดินในพื้นที่เป้าหมาย ให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งเลขาธิการสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมแต่งตั้งมีอํานาจดําเนินการ ดังต่อไปนี้ (1) สั่งให้ผู้ครอบครองที่ดินออกจากพื้นที่เป้าหมายภายในเวลาที่กําหนด และงดเว้นกระทําการใดๆ ในบริเวณพื้นที่เป้าหมาย (2) สั่งให้ผู้ครอบครองที่ดินรื้อถอน ทําลาย หรือกระทําการอื่นใด แก่สิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งอื่นใดในพื้นที่เป้าหมายภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคําสั่ง (3) เข้าไปทําการอันจําเป็นเพื่อการสํารวจและรังวัดพื้นที่เป้าหมาย หรือตรวจสอบ  การครอบครองและการใช้ประโยชน์ในที่ดินในเคหสถานหรือสถานที่ใด ๆ ในบริเวณพื้นที่เป้าหมาย  (4) ออกคําสั่งเรียกให้บุคคลใดมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่หรือมาให้ถ้อยคําหรือส่งมอบเอกสาร หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองและการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่เป้าหมาย  (5) ยึด รื้อถอน ทําลาย หรือกระทําการอื่นใด กับสิ่งปลูกสร้างที่เป็นอุปสรรคกับการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม ในกรณีที่ผู้ครอบครองที่ดินไม่ปฏิบัติตาม (2) หรือไม่ปรากฏว่ามีผู้ครอบครองที่ดินในพื้นที่เป้าหมาย

จากคำสั่ง คสช. ที่ 36/2559 พบว่า สำนักปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จ.ราชบุรี ไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวแต่อย่างใด ในพื้นที่ของ ฟาร์มไก่ เขาสนฟาร์ม หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง .ราชบุรี