https://www.posttoday.com/media/content/2019/11/29/F56CA8BFA2D44EF3BB45E0E3D466C3AE.jpg

"แครี่ แลม" เยือนไทย ลงนามความร่วมมือเศรษฐกิจ 6 ฉบับ

by

ไทย-ฮ่องกง ยกระดับความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 6 แสนล้านบาทปี2563

ภายหลังการหารือแบบเต็มคณะ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นางแครี่ แลม หัวหน้าผู้บริหาร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวร่วมกัน พร้อมลงนาม 6 ฉบับ ประกอบด้วย ด้านการค้าการลงทุน ด้านการลงทุนและการโยกย้ายฐานการผลิต ด้านการเงิน ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ด้านการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น และด้านพัฒนาทรัพยากรบุคคล

นายสมคิด กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่าย เห็นพ้องความร่วมมืออย่างรอบด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การลงทุน เพื่อประโยชน์สูงสุดของทั้ง 2 ฝ่าย และภูมิภาค ซึ่งฮ่องกงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญเชิงเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านการเงิน เป็นประตูสำคัญผลักดันสู่ตลาดโลก อีกทั้งมีการพัฒนาเทคโนโลยี อุตสาหกรรม และกลุ่มสตาร์ทอัพ ได้เป็นอย่างดี ขณะที่ไทยมีจุดแข็งที่ความแข็งแกร่งของฐานทางเศรษฐกิจ และยังเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค รวมถึงกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน (CLMVT) ดังนั้นเพื่อให้การผลักดันการเชื่อมโยง ส่งผลให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงได้เห็นตรงกันว่า ต้องส่งเสริมการค้า การลงทุน ระหว่างไทย-ฮ่องกงโดยขยายฐานการส่งออกสินค้าไทย ที่นอกจากผลผลิตทางการเกษตร และให้สินค้าเกษตรของไทยเป็นสินค้าพรีเมี่ยม เพื่อการส่งออกทั่วโลก ตลอดจนพัฒนาภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และอิเล็กทรอนิกส์

ขณะเดียวกันต้องเชื่อมโยงตลาดการเงิน ตลาดทุนและตลาดหุ้น ระหว่างกันด้วย เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้นักธุรกิจฮ่องกงประสงค์จะตั้งและขยายฐานการผลิตในไทย เพื่อเชื่อมไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน ไทยจึงเตรียมพร้อมรองรับด้านนี้ รวมถึงการสร้างความร่วมมือด้ายการสร้างกลุ่มสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ เพื่อการพัฒนา SME ของไทย โดยมีฮ่องกงเป็นฝ่ายสนับสนุนและให้คำปรึกษาด้าน นางแครี่ แลม กล่าวว่า การพบกันครั้งนี้ เป็นนิมิตรหมายที่ดี สะท้อนให้เห็นว่าไทยและฮ่องกงมีความสัมพันธ์ที่ดี มีการเริ่มต้นเชิงบวก มีนโยบายที่ช่วยพัฒนาทั้ง 2 ฝ่าย ให้เติบโตด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ส่วนการลงนามในข้อตกลง 6 ฉบับ ก็จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงและส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอย่างครอบคลุม เพิ่มพูนประสิทธิภาพการลงทุนและการผลิต ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและนักธุรกิจ ทั้งนี้ขอบคุณไทยที่เป็นมิตรที่ดีต่อกันมาโดยตลอด และแม้ว่าฮ่องกงจะอยู่ในภาวะสถานการณ์ความขัดแย้ง แต่ยืนยันจะใช้จุดแข็งในการปกครองให้ฮ่องกงมีความเข้มแข็ง และจะรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อการแก้ปัญหา ซึ่งเชื่อมั่นว่าฮ่องกงจะสามารถก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปได้ด้วยดี

https://www.posttoday.com/media/content/2019/11/29/DC01B47E13D84019A489276CEC45CAF4.jpg