พิษรักสามเส้าลาม“ลุงตู่”?
กลับมาปั๊บ“ลุงตู่”มีเรื่องต้องเคลียร์หลายปมทางการเมือง โดยเฉพาะความชุลมุนจากความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลกับ“ศึกสามเส้า”พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ที่พันตูกันระหว่างปม“ผลประโยชน์”และ“จุดยืน” จนไปแสดงผลผ่านเหตุการณ์“สภาล่ม”ส.ส.รัฐบาลพ่ายโหวตตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบจากคำสั่ง คสช. และหัวหน้า คสช.มาตรา 44 ถึง2รอบ โดยเฉพาะ“ยกหลัง”ที่องค์ประชุมไม่ครบนับได้แค่ 240 มีเสียงส.ส.ฝั่งรัฐบาลหายไปถึง 14 คน คือ พลังประชารัฐ4 ประชาธิปัตย์6ภูมิใจไทย4 ถึงขนาด“ลุงตู่”ต้องเอ่ยปากทวงถาม“สัญญาลูกผู้ชาย”พรรคร่วมรัฐบาลและต้องเร่งนัดคุยเคลียร์ใจกันเป็นเรื่องๆซะที โดยเฉพาะกับ2พรรค“คู่หูดูโอ”ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ที่มีปมถูกสกัดการดัน“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”เป็นกรรมาธิการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปมการกลับมติ“แบน3สารพิษ” ส่วนฝั่ง“ลุงตู่”พลังประชารัฐ ก็มีปม“ทีมเศรษฐกิจขาเดียว”ตามที่“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”ว่าไว้ที่คาใจในรัฐมนตรี2พรรคที่ได้กระทรวงเกรดเอไปในการเจรจา“ขันหมากล่ม”แต่เมื่อเข้ามากลับปั่นงานเฉพาะที่หาเสียงไว้แบบ“ทางใครทางมัน”มาตั้งแต่ต้น จนเป็นที่มาข่าว“ดีลฝากเลี้ยง”และ“งูเห่าส้ม”ไว้กดข่มในจังหวะ“ลุงตู่”ปรับครม.กระทบ2พรรคดูโอ
ที่เรื่องคงไม่มีอะไรหากผลไม่ไปกระทบ“สปอนเซอร์รายใหญ่”ในรัฐบาล โดยเฉพาะปม“เมกะโปรเจกต์ใหญ่”หลายรายการจนก่อเป็น“ศึกขบเหลี่ยมทุน”ขึ้นหลายจุดแม้กระทั่งปม“3สารพิษ”ที่มาพลิกกลับก่อนถึงวันดีเดย์คล้ายๆอีกหลายกรณีก่อนหน้าที่“ทุนสปอนเซอร์”เกี่ยวข้องที่แน่นอนทำให้แรงกดดันกลับมาที่“หมอหนู”ที่เอา“รัฐมนตรี”ของพรรคเป็นประกันไว้กับ“จุดยืน”การร่วมรัฐบาล
ที่แน่นอนฝั่ง“หมอหนู”คล้ายจะมีอะไรในมือบ้างกับข่าวความเคลื่อนไหวการเตรียม“จับตัวกัน”กับซีกฝ่ายค้านคือ“คู่ดูโอ”ไปบวกกับเพื่อไทย อนาคตใหม่ และพรรคเล็กๆเช่นกัน
ทั้งมวลต้องติดตามต่อว่าแม้จะมีข่าว“ศึกซักฟอก”จะขยับไป พอให้“ลุงตู่”มีเวลานัดเคลียร์“พิษรักสามเส้า”แต่พอถึงเวลาที่แรงเสียดทานจาก“ผู้สนับสนุน”กดดันแต่ละฝ่ายหาจุดลงเอยกันได้หรือไม่.