https://s.isanook.com/ns/0/rp/r/w728/ya0xa0m1w0/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTU5My83OTY3OTE0L2ZhbHNlLWd1aWx0eS1kaWFtb25kLXN0b2xlbi10LmpwZw==.jpg

เปิดใจ "แพะฉกเพชร 20 ล้าน" สุดช้ำติดคุกฟรี 7 เดือน เป็นหนี้ครึ่งล้าน ร่ำไห้คิดว่าตายคาคุก!

กรณี "นายพิสิษฐ์" พ่อค้าขายข้าวเหนียวไก่ย่าง และภรรยา ได้เดินทางไปร้องเรียนกองปราบปรามเพื่อเอาผิดบริษัทแห่งหนึ่งพร้อมบุคคลบางคนในข้อหาแจ้งความเท็จ จนได้รับโทษทางคดีอาญา ในข้อหาฉกเพชรมูลค่าเกือบ 20 ล้าน ทั้งยังระบุว่าถูกตำรวจอุ้มซ้อมให้รับผิดชอบ ติดคุกฟรี 7 เดือน แถมยังเป็นหนี้ครึ่งล้าน

รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.55  - 14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (29 พ.ย.) พิธีกรสาว "ดร.บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ได้เปิดใจสัมภาษณ์ แพะฉกเพชร "นายพิสิษฐ์" ซึ่งมาพร้อมภรรยาและทนายความ เพื่อพูดคุยในประเด็นดังกล่าว

ถูกจับได้ยังไง?

พิสิษฐ์ : "ผมนึ่งข้าวเหนียวอยู่ที่บ้านตอนเช้า ประมาณ 9 โมง กำลังเอาฟืนใส่เตา พอดีมีผู้ชายมาถามผม ชื่อเก่าผมชื่อรังสิต แล้วเขาก็มาล็อกตัวผมขึ้นรถ บอกว่าเป็นตำรวจ เขาใส่ชุดธรรมดานี่แหละ เอาหมายจับให้ผมดู ผมก็อ้าว มีหมายจับด้วยเหรอ สักพักเอาเสื้อผมปิดหน้า ให้คว่ำอยู่ในรถ เอาเข็มขัดล็อกที่ขา ผมถามว่าผมผิดอะไร ผมเห็นหมายจับแต่ไม่ได้อ่าน ผมก็ตกใจ"

วันที่โดนจับ?

พิสิษฐ์ : "วันที่ 16 ก.พ. 60 เขาปิดหน้าปิดตาผม แล้วพาไปรีสอร์ต อุ้มขึ้นรีสอร์ต ก็ถามว่าจับผมเรื่องอะไร เขาบอกว่าผมไปขโมยเพชรเขา เอาเพชรไปไว้ไหน ผมบอกว่าผมไม่ได้ทำ ผมอยู่นครพนมตลอด ผมไม่รู้เรื่องเลย ผมก็ถามเขาว่าเหตุเกิดที่ไหน เขาบอกเหตุเกิดที่กรุงเทพฯ ซึ่งผมไม่ได้เข้ากรุงเทพฯ มาหลายปีแล้ว เขาก็ไม่ฟัง เขาบอกถ้าบอกแล้วเขาจะปล่อย ผมก็บอกว่าอยากเจอเจ้าของเพชร อยากคุยกับเจ้าของเพชร สักพักก็ยื่นโทรศัพท์มาให้คุยกับผม วิดีโอคอล คนที่ไปชี้ตัวผมนี่แหละ ผมถามว่าคุณนาย ผมไม่เคยรู้จักคุณนายเลย ผมจะไปขโมยเพชรคุณนายได้ยังไง เขาก็บอกว่าผมเอาเพชรเขาไปทำไม"

เขาพาพี่ไปไหนต่อ?

พิสิษฐ์ : "เขาก็เค้นผมเรื่องเพชรต่อตั้งนานถึงพาไปอีกรีสอร์ต ผมถามว่าเพชรมูลค่าเท่าไหร่ เขาบอกเกือบๆ 20 ล้าน ผมก็ถามว่าทำไมไม่เป็นข่าว ไม่รู้เรื่องเลย เขาบอกเจ้าของเพชรให้ตามสืบลับๆ ก่อนเขาพาไป ผมบอกว่าผมอยากเจอภรรยา สักพักเขาก็พาภรรยามาหา ช่วงบ่ายก็พาไปอีกรีสอร์ต สักพักก็พาเข้าสถานีตำรวจ เขาทำพิมพ์ลายนิ้วมือ ลงบันทึกการจับกุม ผมบอกว่าผมไม่ได้ทำนะ เขาบอกให้เซ็นๆ ไป ตอนนั้นก็ตกใจ แล้วเขาก็ส่งมาที่อีกโรงพักหนึ่งที่เป็นคดีฉ้อโกง"

แล้วทำไมมีคดีฉ้อโกงอีกคดี?

พิสิษฐ์ : "อันนี้ผมก็ไม่รู้ พอมาถึง ตำรวจก็ถามว่าผมเคยมาที่นั่นมั้ย ผมว่าตั้งแต่เกิดไม่เคยมาเลย เจ้าของคดีก็ไปเรียกผู้เสียหายคดีฉ้อโกงมาดูตัวผม เขาบอกว่าไม่ใช่ ตำรวจก็บอกว่าน่าจะจบแล้ว ให้กลับบ้าน ก็ดีใจคิดว่าได้กลับบ้าน พออีกสักพักมีผู้หญิงที่บอกว่าเพชรหายมาดูอีกที"

พอเจอหน้าคุณนาย?

พิสิษฐ์ : "ผมก็พูดมาจากห้องขังว่าคุณนาย ผมไม่เคยรู้จักคุณนายเลย ผมขายข้าวเหนียวส้มตำอยู่นครพนม จะไปขโมยเพชรอะไร ผมพูดไปก็ร้องไห้ไป ช่วงนั้นกลัวมาก แล้วเขาก็ออกไป พอออกไปเขาก็ทำเรื่องส่งตัวมาที่อีกโรงพักหนึ่ง แล้วก็ส่งเข้าเรือนจำ"

วันที่เดินเข้าเรือนจำ รู้สึกยังไง?

พิสิษฐ์ : "ผมคิดว่าผมตายตั้งแต่วันเขาจับแล้ว ผมคิดว่ายังไงผมก็ไม่รอด ผมจะไม่ได้เห็นหน้าลูกหน้าเมียอีก เพราะเขาขู่เรื่องเพชร ตายแน่เรา ผมตกใจและกลัวมาก ทำไมชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้ ใครมาใส่ร้ายเราขนาดนี้ เราไปทำอะไรให้เขา ผมไม่เคยคิดทำร้ายใคร"

ใครไปบอกพี่ว่าสามีถูกจับ?

ภรรยา : "ไม่มีใครบอกค่ะ เพราะตอนเขาโดนจับ เราออกไปจ่ายค่าไฟ ตอนกลับมาก็มีผู้ชายคนนึงมานั่งรออยู่ ก็งงว่านั่งรออยู่นาน ก็ถามว่าเป็นใคร ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ ก็ถามว่าพี่เขาไปไหน เขาบอกไม่ได้ไปไหนหรอก ไปนั่งรถกับนาย สักพักเขาบอกว่าเธออยากเจอเขาหรือเปล่า จะเจอเขามั้ย เขาก็พาไปที่รีสอร์ตที่เอาตัวไว้ ตอนแรกเขาบอกจะพาไปโรงพักก่อน เดินขึ้นรถปุ๊บเขาก็ยึดโทรศัพท์เลย บอกจะพาไปเจอแฟนที่โรงพัก แต่โรงพักต้องไปทางริมโขง แต่นี่พาไปคนละทางเลย ออกนอกเมือง ตอนเห็นเขา เราก็สงสัยว่าทำไม เขาบอกว่าอยู่ด้วยกันไม่รู้เหรอเขาไปทำอะไร เราบอกว่าอยู่ด้วยักน เขาไม่ได้ทำอะไรเลย"

ภาพแรกเห็นสามี?

ภรรยา : "หน้าซีด เขาให้เห็นไกลนะคะ เขาก็บอกว่ากำลังจะยอมรับนะ ไปขโมยเพชรมา"

วินาทีนั้นเชื่อหรือไม่เชื่อ?

ภรรยา : "ไม่เชื่ออยู่แล้ว เพราะเราอยู่ด้วยกันตลอด เป็นไปไม่ได้"

ช่วงแรกเราไม่สามารถหาพยานมายืนยันตัวเราได้เลยเหรอ?

พิสิษฐ์ : "ช่วงแรกตกใจ ทำอะไรไม่ถูก มานั่งคิดว่าวันที่เพชรหายผมอยู่ไหน สองสามวันก็เข้าเรือนจำ ก็ให้แฟนหาหลักฐานช่วงที่เราอยู่ข้างใน มานั่งคิดว่าวันที่ 26-27 เราไปหาหมอที่คลินิก วันที่ 28 เราปวดท้องอยู่ ให้หมอมาฉีดยาที่บ้าน ตรงกับวันที่เพชรเขาหาย ก็ไล่หาว่าวันนั้นคุยกับใครบ้าง ให้แฟนไปหาพยาน"

ช่วงวิ่งเต้น ลำบากพอสมควร?

พิสิษฐ์ : "ลำบากมาก อยู่ในคุก 7 เดือนกับ 10 วัน"

ภรรยา : "เราไม่ได้ทำงานเลย ค่าใช้จ่ายมีทุกวัน ก็เยอะพอสมควร"

พิสิษฐ์ : "ประมาณ 5-6 แสน ชีวิตในคุกก็ลำบาก นอนขาไขว้กัน จะกินจะอาบน้ำคนมันเยอะต้องแย่งกัน ถ้าเราไม่ผิด เราไปอยู่ข้างใน จิตใจเราก็ว้าวุ่น ทำไมมาเจอสภาพแบบนี้"

จิตใจพี่เป็นยังไง?

ภรรยา : "ทุกข์ทุกอย่าง เพราะเรามีลูกอยู่ที่บ้าน ต้องไปยืมตังค์ในการเดินทาง"

รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับเรา?

พิสิษฐ์ : "ครับ เขาทำเพื่ออะไร มาโยนความทุกข์ให้คนอื่น เขาสบายใจเหรอ หรือเป็นเวรเป็นกรรมของผม ทำไมมาเจอแบบนี้ เราก็จนอยู่แล้ว ยิ่งจนซ้ำไปอีก จิตใจเขาทำด้วยอะไร ไม่เคยรู้จักกันเลย แล้วมาชี้ว่าเราเป็นโจร ไม่เคยลักขโมยใคร เคยดูแต่ในข่าว ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง"

ตอนออกจากคุก ได้รับการตัดสินว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้?

พิสิษฐ์ : "ดีใจมาก ก่อนได้ออกผมรู้ก่อนเดือนนึง สืบอะไรเสร็จหมดแล้ว คิดว่ายังไงก็ได้ออก แฟนก็ซื้อขนมให้นักโทษกินเลี้ยงกันก่อน ได้ออกมาเจอหน้าแม่" 

วินาทีนั้นกราบเท้า?

พิสิษฐ์ : "คือดีใจ หมดทุกข์หมดโศกแล้ว ดีใจมากที่ได้ออกมา พูดอะไรไม่ออก ร้องไห้อย่างเดียว"

ติดคุกไป 7 เดือนกว่า ได้รับเงินเยียวยามั้ย?

พิสิษฐ์ : "ได้จากกระทรวงยุติธรรม ช่วยมา 180,000 เงินที่ได้มาเราก็ไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน เราไม่มีทุน ออกมามีแต่หนี้ที่ไปยืม แฟน แม่ น้องนุ่ง ญาติพี่น้องก็ไปดึงๆ กันมา มันก็เลยมากขึ้น ตอนนี้บ้านที่อุบลฯ แม่ประกาศขายบ้าน เพื่อเอามาใช้หนี้ให้ญาติพี่น้อง มันเป็นผลพวงกันหมดเลย เราไม่มีอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้ทำผิด ทำไมเราต้องติดคุก มันนาน 2 ปีแล้ว เรายังหาเงินไปจ่ายเขาไม่ได้ เราออกมาเขาคิดว่าเรามีตังค์แล้ว แต่เงินชดเชยไม่ได้มากขนาดนั้น"

สงสัยมั้ย ทำไมต้องเป็นเรา?

พิสิษฐ์ : "สงสัย ทำไมเป็นผม ทำไมผมต้องมาเป็นคนรับกรรม"

แล้วเขาตามโจรตัวจริงได้หรือยัง?

พิสิษฐ์ : "เราพิสูจน์ความจริงแล้วว่าเราไม่ได้ทำ แล้วคนร้ายล่ะ คุณได้เพชรคืนมั้ย ก็ออกมาถามนี่แหละว่าเพชรอยู่ที่ไหน ใครเป็นคนร้าย"

ถ้าเราเป็นแพะรับบาป เราสามารถเรียกร้องความยุติธรรมจากใครได้บ้าง?

ทนายความ : "จากที่คุยกับทางแพะไปแล้ว กระทรวงยุติธรรมเยียวยาในส่วนของเงินที่เขาจ่ายได้ คำนวณตามวัน ได้รับไปแล้ว เป็นสิทธิตามกฎหมายพื้นฐาน แต่การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมโดยไม่ชอบ นำไปเซฟเฮาส์ ทำร้ายร่างกาย กรณีนี้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก็สามารถฟ้องตามมาตรา 157 มีโทษจำคุก 1-10 ปี เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการจับกุม ถ้าพบว่าพนักงานสอบสวนดำเนินการไม่ตรงไปตรงมา ก็สามารถดำเนินการได้โดยตรง ถ้าต้องการเรียกค่าเสียเวลา เสียโอกาส วิ่งเต้นคดี สามารถฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้รับผิดชอบส่วนนี้ได้ แล้วกรณีที่ดำเนินการเบิกความเท็จ ที่เจ๊เจ้าของเพชรมาชี้ตัวมั่วๆ ต้องตกไปอยู่ในคุกหลายเดือน สามารถแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาเบิกความเท็จ ซึ่งมีโทษจำคุกถึง 7 ปีเลยนะ เบิกความเท็จในคดีอาญา"

ฟ้องเจ๊ให้รับผิดชอบได้ ทำไมมาชี้ตัวมั่ว?

ทนายความ : "ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครจับเขาซ้อม เป็นใครกันแน่ ต้องไปสืบหามาก่อน เพราะตอนนี้ไปร้องทุกข์ให้กองปราบฯ สืบสวนแล้ว แต่เรื่องนี้มีพิรุธในคดีเยอะเลย ผมตรวจสอบคำพิพากษาแล้ว ศาลไม่ได้ยกฟ้องเพราะเหตุอ้างที่อยู่นะ เหตุที่ศาลยกฟ้องมี 4 ประการ คือทางเจ๊เจ้าของเพชรมีประจักษ์พยานแค่คนเดียว คือตัวเจ๊ พนักงานสอบสวนไม่ตรวจสอบการใช้ข้อมูลทางโทรศัพท์ที่นำเบอร์ของคุณพิสิษฐ์ไปเปิดว่าคนร้ายตัวจริงโทรหาใครบ้าง ไม่มีลิสต์การโทรเข้าโทรออกเลย ได้แค่ชื่อทางนี้แล้วดำเนินการจับกุมเลย เมื่อก่อนใช้สำเนาบัตรคนอื่นไปเปิดได้ แต่เดี๋ยวนี้ต้องใช้ตัวจริงแล้ว แล้วบ้านที่เกิดเหตุไม่ตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงด้วย ไม่ตรวจสอบดีเอ็นเอ ไม่ตรวจสอบอะไรเลย อันนี้ปรากฏในคำพิพากษาของศาล ที่ขังเจ๊ซื้อขายเพชร ไม่ตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง ไม่รู้ว่าไม่มีหรือไม่ได้ตรวจสอบ แล้วกล้องวงจรปิดบริเวณนั้นไม่มี พิรุธที่ 4 คือไม่มีการสอบสวนบ้านที่เกิดเหตุ บ้านที่ขายเพชรเป็นบ้านคนอื่่นนะ ที่สำคัญเพชรของกลางอยู่ไหน อย่าลืมว่าเพชรมีใบเซอร์ด้วยนะ ในการโดนขโมยไป ต้องไปปรากฏในตลาด ได้สอบสวนตรงนี้หรือเปล่า ตรงนี้พี่เขาติดใจว่าเพชรหายจริงหรือเปล่า ทางนี้ยกฟ้องไปแล้ว แล้วคนร้ายตัวจริงอยู่ไหน ไปจับตัวมาสิ อยู่ดีๆ ยกฟ้องไม่ใช่จะจบนะ แล้วเพชรอยู่ไหน เจ๊ก็ลอยไป ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้เลยเหรอ"

เจ๊ต้องชดใช้เขามั้ย?

ทนายความ : "ต้องชดใช้ ถ้าเจ๊ไม่อยากติดคุก เจ๊ต้องตามคนร้ายต่อ เพราะสังคมตั้งคำถามว่าตกลงเพชรหายจริงหรือเปล่า"

อยากฝากอะไรถึงเจ๊?

พิสิษฐ์ : "คนเราถ้าหากินสุจริต บ้านเมืองก็เจริญ ถ้าหากินคดโกงแบบนี้ บ้านเมืองจะอยู่ยังไง"

เขาทำเพื่อประกันหรือเปล่า?

พิสิษฐ์ : "ผมไม่แน่ใจว่าเขาทำเพื่ออะไร"

ต้องสอบเจ๊ สอบตำรวจที่จับกุม?

ทนายความ : "ต้องตามจับตัวให้ได้ จะให้เขาติดคุกฟรีเหรอ"

กล้าฟ้องตำรวจเหรอ?

พิสิษฐ์ : "เรากลัวมาก แต่ก็อยากรู้ความจริง คิดขึ้นมาก็กลัว ภาพยังติดตาอยู่"

ทนายความ : "ถ้าผู้เสียหายไม่กล้าดำเนินการ กฎหมายก็ช่วยไม่ได้ แต่ภาครัฐต้องมีคำตอบให้เขา ต่อให้ฟ้องหรือไม่ฟ้อง หรือไม่ก็ต้องตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่"