มหกรรมโชว์การเมืองน้ำเน่า...

by
https://mpics.mgronline.com/pics/Images/562000011826901.JPEG

"โสภณ องค์การณ์"

เห็นมหกรรมหลายอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองช่วงสัปดาห์นี้บ้างหรือเปล่า ทั้งคดีความต่างๆ ในศาลและนอกศาล พฤติกรรมของมนุษย์และเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งผู้กุมอำนาจในระดับต่างๆ ซึ่งแสดงบทบาทให้เห็นว่าประเทศไทยไปต่อลำบากจริงๆ

มีความผุกร่อน เสื่อมโทรมด้านโครงสร้างทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป นอกจากปัญหาความปลอดภัย ชีวิตความเป็นอยู่ และอาชญากรรม

พฤติกรรมของข้าราชการ นักการเมือง พ่อค้า และชาวบ้านทั่วไป ดิ้นรนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง ต่างมุ่งหวังรายได้ แทบไม่คำนึงว่าที่มาที่ไปนั้นถูกต้องตามกฎหมาย หรือศีลธรรม สร้างผลกระทบต่อความมั่นคงของบ้านเมือง

ล่าสุดวิญญูชนสงสัยว่ายังจะมีอะไรเหลืออยู่อีกหรือในความน่าเชื่อถือของผู้ กุมอำนาจหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลซึ่งมีพฤติกรรมอย่างที่สังคมมองว่าไม่ให้ความสำคัญต่อสุขภาพชีวิตของประชาชน มีแต่เห็นผลประโยชน์ของพ่อค้านายทุน

ในสายตาของประชาคมโลกประเทศไทยก็จะถูกมองว่าปัญหาเรื่อง 2 มาตรฐาน หรือไร้มาตรฐาน ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดอีก ในเรื่องการละเมิดกฎหมายป่าไม้ การบุกรุกที่ดิน การอ้างสิทธิ ส.ป.ก. การใช้ ครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ

อะไรก็ตามที่ผลประโยชน์ของประชาชนจะเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญเพราะทุกอย่างถูกกำหนดด้วยอำนาจเงินและผลประโยชน์ ชาวบ้านธรรมดาบุกรุกที่ป่า ที่ดินหลวงถูกจับปรับ ติดคุกหลายราย แต่ถ้าคนมีเส้น จะมีขั้นตอนเรื่องเยอะทันที

เรื่องเล้าไก่อดีตนางงามจังหวัดรอบนอกเมืองหลวง กำลังเป็นประเด็น มีบท ดรามาหลายฉากทั้งในและนอกสภา สร้างความน่าคลื่นเหียนชวนอาเจียนให้ชาวบ้านซึ่งคาดหวังว่าการเมืองจะยกระดับพ้นน้ำเน่า ยิ่งกว่าละครทีวีแบบตบจูบ

การเมืองทุกมิติ ทั้งจากรัฐประหารแย่งอำนาจ ถึงรัฐประหารเชิงพาณิชย์ แอ่นแอ๊นแล้วรวย ก็มีสลับฉากกับการเมืองภาคนักเลือกตั้งอาชีพ เผด็จการรัฐสภา เป็นวงจรชีวิตเวียนว่ายตายเกิดไม่พัฒนาด้านคุณภาพของคน จิตสำนึก ยางอายที่ควรมี

กรณีสารพิษเคมีเกษตร 3 ตัวซึ่งคณะกรรมการวัตถุอันตรายประชุมก่อนหน้านี้ให้ยกเลิกการใช้ สารพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพรีฟอส เริ่ม 1 ธันวาคม ชาวบ้านซึ่งไม่อยากเป็นเหยื่อของสารพิษปนเปื้อนในพืชผักต่างยินดีปรีดา

ในหลายทศวรรษ คนไทยต้องเสี่ยงกับโรคร้ายสารพัดอันเกิดจากสารพิษเคมีเกษตร และก็หวังว่าประเทศไทยคงจะมุ่งเน้นผลิตอาหารปลอดสารพิษ เป็นครัวไทยสู่ครัวโลกตามคำประกาศโอ่อ่าของท่านผู้นำประชานิยมทุกครั้งที่ไปเยือนต่างประเทศ

พร่ำพูดเรื่องศาสตร์พระราชา อ้างว่าเป็นแนวทางการบริหารบ้านเมือง

แล้วเป็นอย่างไง? ผู้กุมอำนาจรัฐได้แสดงท่าทีลอยตัวเหนือการโต้เถียงขัดแย้งมาโดยตลอด ดันปล่อยให้รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบออกอาการเลอะเทอะ ไม่ใส่ใจ กรณีสุขภาพความปลอดภัยของประชาชน ในด้านความเสี่ยงจากสารพิษเคมีเกษตร

ที่มองว่าเป็นเรื่องวิปริต วิปลาส ตลกหัวเราะไม่ได้ เสียใจร้องไห้ไม่ออก ก็คือข่าวที่ว่าท่านประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ประชุมแบบรวบรัดตัดตอน รวบหัวรวบหาง สรุปว่าคณะกรรมการมีทั้งได้ยกเลิกการห้ามและยืดอายุการใช้สารพิษ

เท่ากับว่า พาราควอต และคลอร์ไพรีฟอส ให้ใช้ได้ถึง 1 มิถุนายนปีหน้าและยกเลิกการแบนไกลโฟเซต เพื่อให้ชาวบ้านต้องเสี่ยงกับสารพิษนี้ต่อไปนั่นเอง

ข้าราชการตัวแทนอุตสาหกรรมและเกษตร ไม่พูดเรื่องสุขภาพ มุ่งพร่ำแต่ความเสียหายของพ่อค้าและลูกค้าคือเกษตรกรและโรงงาน คุณค่าของชีวิตและสุขภาพไร้ค่า ตัวประธานซึ่งเป็นประมุขสาแหรกหนึ่งของตระกูลจึง อ้างว่าไม่มีใครคัดค้าน

หลังจากแถลงข่าว มีเสียงทักท้วงจากคณะกรรมการบางคนอ้างว่าเป็นมติที่ไม่มีการลงคะแนนเสียง ไม่ถามความเห็นว่าจะเอาหรือไม่เอา ประธานทึกทักเอาเองและไม่ได้ยกเลิกมติเดิมของคณะกรรมการเรื่องการห้ามใช้สารพิษเคมีเกษตร 3 ตัว

ทำให้มีคนสงสัยว่าคำประกาศของประธานถูกต้องตามกฎระเบียบหรือไม่ และเรื่องนี้จะจบ หรือจะว่ากันอย่างไร เพราะกลุ่มผู้ไม่เอาสารพิษจะยังรณรงค์ต่อ และเปิดโปงมาว่ากลุ่มที่ชุมนุมหน้าทำเนียบฯ เป็นตัวแทนบริษัทผู้ค้าเคมีเกษตร

นั่นยิ่งทำให้ชาวบ้านสงสัยว่าทุกอย่างในภาครัฐขณะนี้ถูกกำหนดด้วยอำนาจเงินและพลังของนายทุนเท่านั้น ใช่หรือไม่ แต่ละโครงการมีแต่นายทุนใหญ่ได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะโครงการประชานิยมจมไม่ลง ถมไม่เต็มที่ผ่านมา

ประเด็นความน่าเชื่อถือ ความศรัทธาที่มีต่อผู้เกี่ยวข้อง หรือผู้นำรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะไม่เคยมีใครให้ความสำคัญ พฤติกรรมที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดว่าอะไรที่เป็นเรื่องดีสำหรับประชาชนมักจะมาภายหลังผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจเงินเสมอ

ความน่าประหลาดใจที่ประธานดูเหมือนเจตนาตีขลุมลักไก่เรื่องมติซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นนั้น ทำให้คนสงสัยว่าทำไมมีความกล้าหาญมาก อยากสร้างปัญหา ให้เป็นเรื่องฉาว นำไปสู่การคัดค้านถึงขั้นชาวบ้านลงถนนเดินขบวนขับไล่รัฐบาลหรือไม่

อะไรๆ มันดูไม่เหมาะสำหรับคณะ 3 ลุง ซึ่งจะเป็นเป้าหลักของการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสียด้วย ยิ่งพวกที่มาอยู่เคยเป็นเครือข่ายของท่านเหลี่ยมมาก่อน ทำให้คนหวาดระแวงอยู่ในอาการผวาว่ามีใครได้รับใบสั่งให้ป่วนเพื่อหยุดคณะ 3 ลุง หรือไม่

อยู่ในสภาพ “ขาลง” มานานเต็มที มีแต่พวกรับผลประโยชน์กับพวกติ่งที่ยังหนุนอยู่ ชาวบ้านมีแต่อกไหม้ไส้ระกำเพราะปัญหาสารพัด ทั้งยังเบื่อหน่ายสุดๆ